ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 23-01-2024, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,959 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในสมัยที่ยังอยู่กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง มีอยู่วันหนึ่ง ท่านลงอุโบสถทบทวนพระปาฏิโมกข์ด้วยกัน แล้วให้โอวาท ท่านบอกว่า "พวกแกทั้งหมดยังไม่มีใครได้มโนมยิทธิอย่างแท้จริงเลย" กระผม/อาตมภาพก็นั่งอ้าปากหวอ..! เพราะว่ากฎเกณฑ์กติกาของวัดท่าซุงในสมัยนั้นก็คือ ใครจะบวชต้องฝึกมโนมยิทธิได้ก่อน ต้องสามารถรู้เห็นนรกสวรรค์ให้ได้ก่อน เพื่อที่จะได้รู้ว่าถ้าเราทำชั่วแล้วจะไปไหน ถ้าเราทำดีแล้วจะไปไหน ในเมื่อรู้ชัดเจนแล้ว ถ้ายังเลือกที่จะทำชั่วอีกก็ตามใจ..!

เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็สงสัยว่า แล้วสิ่งที่พวกกระผม/อาตมภาพทำได้นั้นคืออะไร ? พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านบอกว่า "ผู้ที่จะได้มโนมยิทธิอย่างแท้จริงต้องเป็นพระอรหันต์เท่านั้น เพราะว่าจิตของท่านจะสะอาดจนกิเลสเกาะไม่ได้ โอกาสที่นิมิตทั้งหลายจะปรุงแต่งหลอกลวงท่านได้นั้นยากมาก สำหรับบุคคลอื่น มีแต่จะโดนหลอกลวงได้ตามลำดับลงมา ยิ่งเป็นปุถุชนผู้หนาด้วยกิเลส ยิ่งมีโอกาสโดนหลอกลวงชักนำได้ง่ายที่สุด"

เราจะเห็นว่าหลายต่อหลายราย พอถึงเวลาก็กลายเป็นอาจารย์ใบ้หวย แล้วเรื่องเหล่านี้ก็แปลกมาก ก็คือถ้าหากว่าเราบอกคนอื่น มักจะถูก แต่ถ้าคิดจะเล่นเองเมื่อไร ความโลภที่เกิดขึ้น จะทำให้ผิดพลาดได้ กระผม/อาตมภาพทดลองมาด้วยตนเองแล้ว ก็คือถ้าเล่นเลขท้าย ๓ ตัวก็จะออกแค่ ๒ ตัว ถ้าเล่น ๒ ตัวจะออกแค่ตัวเดียว ถ้าเล่นตัวเดียวไม่ออกเลย เหมือนอย่างกับแกล้งให้เราเสียเงินให้เข็ด แต่ถ้าบอกคนอื่นเมื่อไรกลับแม่น..!

เมื่อมาพินิจพิจารณากันตั้งแต่ต้นยันปลาย ปลายยันต้น พอประสบการณ์มากขึ้น ถึงได้รู้ว่าตอนที่เราให้ผู้อื่นนั้น เราแทบจะไม่ได้หวังประโยชน์อะไรเลย จิตใจมีความสะอาดมากกว่า อนาคตังสญาณที่จะกำหนดรู้จึงชัดเจนกว่า แต่ถ้าหากว่าเราหวังที่จะเล่นด้วยตนเอง แปลว่าความโลภเกิดแล้ว ในเมื่อกิเลสนำหน้า ตัณหานำทาง ญาณต่าง ๆ ก็ย่อมมืดมัวไปตามกิเลสที่เกิดขึ้น โอกาสที่ผิดพลาดก็จะมีมาก

แล้วอีกส่วนหนึ่งก็คือ เมื่อมีความสามารถเหล่านี้เกิดขึ้น เรามักจะจัดการได้ยาก ถ้าเป็นภาษิตจีนมักจะใช้คำว่า "คนอยู่ในยุทธจักรไม่เป็นตัวของตัวเอง" เนื่องเพราะว่าพอเราทำได้แล้วมีคนรู้เข้า ก็จะเกิดสองสถานะ อย่างใดอย่างหนึ่ง ก็คือคนไม่เชื่อก็ว่าเราบ้า แต่ว่าคนที่เชื่อก็จะมารบกวนชนิดหัวไม่วาง หางไม่เว้น จนกระทั่งเราเองไม่มีเวลาปฏิบัติ แล้วสิ่งที่ทำได้ก็จะเสื่อมไป

หลังจากนั้นแล้ว ถ้าจัดการตัวเองไม่ถูก เสียดาย ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ที่เคยได้ ก็จะใช้วิธีหลอกลวงคนอื่นเขา ก็คือไม่บอกว่าวิชาเสื่อมแล้ว แต่ใช้วิธีมั่วเอาแทน ดังนั้น...เรื่องพวกนี้พอเกิดขึ้นกับนักปฏิบัติธรรมแล้ว จะจัดการได้ยากมาก ถึงยากที่สุด แต่ถ้าจัดการได้ถูกต้อง ก็สร้างประโยชน์ให้ได้เหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-01-2024 เมื่อ 02:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา