ในเมื่อเป็นเช่นนั้น โอกาสที่จะเห็นดีเห็นงามในพระพุทธศาสนาก็น้อย โดยเฉพาะมักจะตั้งแง่ในลักษณะที่ว่า พระพุทธศาสนาจะก่อให้เกิดประโยชน์อะไรกับตนบ้าง แต่ว่าตนเองกลับเป็นผู้ที่ขาดความอดทน เป็นผู้ที่ขาดความพากเพียร ทำให้ไม่สามารถที่จะสัมผัสได้แม้แต่เบื้องต้นของพระพุทธศาสนา เหมือนอย่างกับเด็กเรียนไม่จบชั้น ป.๑ แล้วก็เที่ยวไปไล่ถามคนที่เรียนระดับปริญญาว่า ศึกษาไปแล้วได้ประโยชน์อะไร ?
จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องที่น่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่าก็ไม่สามารถที่จะช่วยอะไรได้ เนื่องจากว่าในเรื่องของการกระทำความดีนั้น เป็นเรื่องของใครทำใครได้ ไม่สามารถที่จะทำแทนกันได้
ถ้าท่านทั้งหลายยังทำตัวเป็นน้ำล้นแก้วอยู่ในลักษณะอย่างนี้ พระพุทธศาสนาของเราก็คงจะเรียวปลายลงไปเรื่อย ๆ ในขณะที่กระผม/อาตมภาพและคณะสงฆ์ ก็ได้แต่พยายามช่วยกันประคับประคองอย่างเต็มที่ พยายามที่จะทำให้ท่านทั้งหลายที่ตั้งเงื่อนไขเอาไว้มากนั้น ได้ลดเงื่อนไขของตนเองลงมาบ้าง อย่างน้อยก็จะได้สัมผัสกับพระพุทธศาสนา ไม่ทำตนเป็นทัพพีที่คาหม้อแกงอยู่ เพราะชื่อของตนยังนับถือพระพุทธศาสนา แต่ไม่ได้ประโยชน์จากพระพุทธศาสนาเลย ในลักษณะเดียวกับทัพพีที่ไม่รู้รสแกงเลย..!
ถ้าเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพก็คงได้แต่แผ่เมตตาให้ หวังว่าท่านทั้งหลายเหล่านั้นคงจะมีหูตาสว่างขึ้นมาในสักวันหนึ่ง แต่เกรงว่ากว่าที่ท่านจะเห็นประโยชน์ของพระพุทธศาสนา ก็อาจจะไม่ทันกับชีวิตปัจจุบันนี้ ทำให้ต้องเสียชาติเกิดไปเปล่า ๆ ชาติหนึ่ง..!
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๑๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-01-2024 เมื่อ 02:43
|