ถ้าหากว่าเข้าทางประตูใหญ่วัดท่าขนุน ไปจนถึงสถานที่ชาร์จไฟฟ้า ก็ตกประมาณ ๗๐๐ เมตร ถ้าหากว่าเข้าทางด้านฌาปนสถานของวัด ก็ตกประมาณ ๔๕๐ เมตร จึงไม่ใช่เรื่องที่ท่านทั้งหลายจะเสียเวลาเพื่อที่จะแวะเข้าไป โครงการติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าฟรีสำหรับรถไฟฟ้าวัดท่าขนุน จึงต้องพับเก็บไปโดยปริยาย แล้วในขณะเดียวกัน ดูท่าว่าต้องใช้รถน้ำมันที่เปลี่ยนเป็นระบบแก๊สนี้ต่อไปอีกหลายปี
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ถ้าซื้อรถใหม่แล้วรถไฟฟ้าเกิด "บูม" ขึ้นมา เราก็จะเสียท่าขาดทุน เพราะจ่ายค่าน้ำมันแพงกว่าหลายเท่า ประการที่สองก็คือ การที่เราจะซื้อรถใหม่ ถ้ารถไฟฟ้าสามารถพัฒนาไปถึงระดับชาร์จครั้งหนึ่งวิ่งได้ ๑,๐๐๐ กิโลเมตร ก็น่าจะไม่คุ้มกัน เพราะว่าพัฒนาการทางด้านนี้ไปเร็วมาก เราซื้อรถใหม่มาปีสองปี แล้วต้องไปซื้อรถไฟฟ้า ดูท่าจะไม่คุ้มกับเงินของญาติโยมที่จ่ายไป
โดยเฉพาะกระผม/อาตมภาพเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยในทุกเรื่อง อันดับแรกก็คือจะไม่ใช้รถที่หรูหราจนเกินไป ญาติโยมจะเห็นว่า กระผม/อาตมภาพใช้รถตรวจการระดับพื้น ๆ ที่วิ่งกันทั่วประเทศไทย ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้น มีญาติโยมปวารณาจะถวายรถตรวจการระดับพรีเมี่ยม ราคาเกือบ ๔ ล้านบาท แต่กระผม/อาตมภาพเองก็ดี น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ก็ตาม ไม่อยากที่จะเครียดเวลาวิ่งอยู่บนท้องถนน เพราะว่ารถแพง อาจจะไปเฉี่ยวไปชนเข้าเมื่อไรก็ไม่รู้..!?
โดยเฉพาะข้อตกลงทุกครั้งที่มีผู้ถวายรถก็คือ ผู้ถวายจะต้องรับผิดชอบเรื่องการต่อทะเบียน การต่อประกัน และค่าใช้จ่ายในการเข้าศูนย์ทุกครั้ง พูดง่าย ๆ ว่ากระผม/อาตมภาพมีหน้าที่ใช้เท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็จะไม่รับรถยนต์คันนั้นมาไว้เป็นภาระของตน
ในเมื่อเรื่องมากขนาดนี้ จึงทำให้ญาติโยมที่ปวารณาถวายรถยนต์ต้องปวดหัวไปตาม ๆ กัน คิดว่าถ้าทนใช้รถยนต์นี้ไป จนกระทั่งรถไฟฟ้าสามารถที่จะขยับขึ้นมาในการชาร์จครั้งหนึ่งวิ่งได้ประมาณ ๑,๐๐๐ กิโลเมตร เพื่อเป็นการประกันความเสี่ยงว่าสามารถที่จะไปกลับได้ โดยไม่ตายอยู่กลางทางแล้ว ค่อยมาพิจารณากันใหม่ว่าจะเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าหรือไม่
เมื่อวิ่งไปถึงวัดท่ามะขาม (วัดราษฎร์ประชุมชนาราม) น้องเล็ก ก็ปล่อยกระผม/อาตมภาพลงที่อาคารปฐมา เพื่อตรวจงานบูรณปฏิสังขรณ์วัดท่ามะขาม ในฐานะประธานอุปถัมภ์โครงการงานบูรณปฏิสังขรณ์วัดท่ามะขามแห่งนี้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-01-2024 เมื่อ 02:03
|