แล้วบางชิ้นก็ใหม่เอี่ยม เหมือนอย่างกับเพิ่งทำเลย อย่างที่กระผม/อาตมภาพเจอมาก็คือสายคาดเอวตะขาบไฟ หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ของอายุเป็นร้อยปี ใหม่เหมือนเพิ่งจะทำมาไม่กี่วัน..! พอสอบถามแล้ว ปรากฏว่าตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นพ่อ รุ่นลูก ใส่ถุงแดงบูชาอยู่บนหิ้ง ไม่เคยทำอะไรเลย ถ้าหากว่าใครเจอแบบนั้นก็ต้องบอกว่าบังเอิญอย่างยิ่ง ถือว่าเป็นบุญของคุณที่ได้ของดีสวยสมบูรณ์แบบนั้นไป
แต่ว่าหุ่นนักรบ ถ้าหากว่าส่วนไหนสามารถที่จะนำวัตถุมงคลของจริงไปประกอบได้ กระผม/อาตมภาพก็จะพยายาม เพื่อที่อย่างน้อยก็จะได้เห็นว่าในสมัยก่อนนั้น เขามีอะไรติดตัวกันบ้าง ส่วนใหญ่แล้วคนสมัยก่อนใช้เครื่องรางของขลังมากกว่าพระเครื่อง เพราะถือคติว่าพระต้องอยู่วัด ในเมื่อพระต้องอยู่วัด ถึงเวลารับพระเครื่องจากครูบาอาจารย์มา พอใช้งานเสร็จก็เอาไปคืนไว้ที่วัด บางท่านก็เอาไปกองรวมกันไว้ข้างพระเจดีย์..!
ต้องบอกว่าคนโบราณกำลังใจละเอียดกว่าเรา เพราะเกรงว่าจะเป็นการปรามาสพระรัตนตรัย แล้วการที่พระเครื่อง ซึ่งเป็นรูปพระพุทธเจ้าบ้าง รูปพระสาวก อย่างพระปิดตาหรือว่าพระสีวลีบ้าง ถ้าเอามาอยู่ที่บ้าน ตนเองก็ไม่แน่ใจว่าสมควรหรือเปล่า ? ใช้เสร็จงานนั้นก็เอาไปคืนวัด ถ้าเป็นสมัยนี้ ใครจะเอาพระสมเด็จวัดระฆังมาคืนที่วัดท่าขนุน กระผม/อาตมภาพก็จะตั้งพานรอรับเลย..!
แต่คราวนี้กำลังใจของคนรุ่นหลังไม่เหมือนกัน จึงกลายเป็นว่าเกิดสิ่งที่เขาเรียกว่า "พุทธพาณิชย์" ขึ้นมา ก็คือพอมีมูลค่าให้จำหน่ายให้ซื้อขายกัน จากที่ไม่นิยมเอาพระเครื่องไว้ที่บ้าน ก็กลายเป็นขนเข้าบ้านกันเป็นปกติ เครื่องรางของขลังที่เขาใช้ติดบ้าน เพื่อรักษาตัวเองและครอบครัว จึงกลายเป็นส่วนประกอบไป ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นก็คือวัตถุมงคลหลักที่แต่ละบ้านจำเป็นต้องมีไว้เลย
เนื่องเพราะว่าสมัยก่อน ในเรื่องของการรักษาพยาบาลก็ดี ในเรื่องของภูตผีปีศาจ หรือว่าสิ่งลี้ลับมารบกวนก็ตาม จะมีเป็นปกติ ตัวพ่อบ้าน หรือหัวหน้าครอบครัว ซึ่งโดนสภาพสังคมบังคับว่าต้องบวช พอบวชเข้าไปแล้ว ต้องเรียนต้องศึกษา อย่างน้อยทำอะไรไม่ได้ เสกกล้วยให้เมียกินแล้วคลอดง่ายก็ยังดี ทำน้ำมนต์ธรณีสารถอนคุณถอนของก็ยังดี สมัยนี้ค่านิยมลดน้อยถอยลง พวกเราศึกษาเอาไว้เป็นความรู้ประดับตัว ถ้าซักซ้อมจนกระทั่งมีความคล่องตัวแล้ว เกิดฉุกเฉินอะไรก็จะได้ใช้งาน แต่ว่าจะให้ต้องใช้ในชีวิตประจำวันตามปกติแบบโบราณก็คงจะยากแล้ว
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๘ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-12-2023 เมื่อ 02:36
|