ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 09-12-2023, 00:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,416,029 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แล้วบางชิ้นก็ใหม่เอี่ยม เหมือนอย่างกับเพิ่งทำเลย อย่างที่กระผม/อาตมภาพเจอมาก็คือสายคาดเอวตะขาบไฟ หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ของอายุเป็นร้อยปี ใหม่เหมือนเพิ่งจะทำมาไม่กี่วัน..! พอสอบถามแล้ว ปรากฏว่าตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นพ่อ รุ่นลูก ใส่ถุงแดงบูชาอยู่บนหิ้ง ไม่เคยทำอะไรเลย ถ้าหากว่าใครเจอแบบนั้นก็ต้องบอกว่าบังเอิญอย่างยิ่ง ถือว่าเป็นบุญของคุณที่ได้ของดีสวยสมบูรณ์แบบนั้นไป

แต่ว่าหุ่นนักรบ ถ้าหากว่าส่วนไหนสามารถที่จะนำวัตถุมงคลของจริงไปประกอบได้ กระผม/อาตมภาพก็จะพยายาม เพื่อที่อย่างน้อยก็จะได้เห็นว่าในสมัยก่อนนั้น
เขามีอะไรติดตัวกันบ้าง
ส่วนใหญ่แล้วคนสมัยก่อนใช้เครื่องรางของขลังมากกว่าพระเครื่อง เพราะถือคติว่าพระต้องอยู่วัด ในเมื่อพระต้องอยู่วัด ถึงเวลารับพระเครื่องจากครูบาอาจารย์มา พอใช้งานเสร็จก็เอาไปคืนไว้ที่วัด บางท่านก็เอาไปกองรวมกันไว้ข้างพระเจดีย์..!

ต้องบอกว่าคนโบราณกำลังใจละเอียดกว่าเรา เพราะเกรงว่าจะเป็นการปรามาสพระรัตนตรัย แล้วการที่พระเครื่อง ซึ่งเป็นรูปพระพุทธเจ้าบ้าง รูปพระสาวก อย่างพระปิดตาหรือว่าพระสีวลีบ้าง ถ้าเอามาอยู่ที่บ้าน ตนเองก็ไม่แน่ใจว่าสมควรหรือเปล่า ? ใช้เสร็จงานนั้นก็เอาไปคืนวัด ถ้าเป็นสมัยนี้ ใครจะเอาพระสมเด็จวัดระฆังมาคืนที่วัดท่าขนุน กระผม/อาตมภาพก็จะตั้งพานรอรับเลย..!

แต่คราวนี้กำลังใจของคนรุ่นหลังไม่เหมือนกัน จึงกลายเป็นว่าเกิดสิ่งที่เขาเรียกว่า "พุทธพาณิชย์" ขึ้นมา ก็คือพอมีมูลค่าให้จำหน่ายให้ซื้อขายกัน จากที่ไม่นิยมเอาพระเครื่องไว้ที่บ้าน ก็กลายเป็นขนเข้าบ้านกันเป็นปกติ เครื่องรางของขลังที่เขาใช้ติดบ้าน เพื่อรักษาตัวเองและครอบครัว จึงกลายเป็นส่วนประกอบไป ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นก็คือวัตถุมงคลหลักที่แต่ละบ้านจำเป็นต้องมีไว้เลย

เนื่องเพราะว่าสมัยก่อน ในเรื่องของการรักษาพยาบาลก็ดี ในเรื่องของภูตผีปีศาจ หรือว่าสิ่งลี้ลับมารบกวนก็ตาม จะมีเป็นปกติ ตัวพ่อบ้าน หรือหัวหน้าครอบครัว ซึ่งโดนสภาพสังคมบังคับว่าต้องบวช พอบวชเข้าไปแล้ว ต้องเรียนต้องศึกษา อย่างน้อยทำอะไรไม่ได้ เสกกล้วยให้เมียกินแล้วคลอดง่ายก็ยังดี ทำน้ำมนต์ธรณีสารถอนคุณถอนของก็ยังดี สมัยนี้ค่านิยมลดน้อยถอยลง พวกเราศึกษาเอาไว้เป็นความรู้ประดับตัว ถ้าซักซ้อมจนกระทั่งมีความคล่องตัวแล้ว เกิดฉุกเฉินอะไรก็จะได้ใช้งาน แต่ว่าจะให้ต้องใช้ในชีวิตประจำวันตามปกติแบบโบราณก็คงจะยากแล้ว

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๘ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-12-2023 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา