ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 21-11-2023, 23:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,328 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อไปถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง-ออกเมืองทางช่องเม็กของไทยเรา ก็เข้าไปประทับตราพาสปอร์ตออกจากประเทศไทย แล้วต้องเดินลอดอุโมงค์โผล่ไปฝั่งลาว ที่มีแม่หญิงปุ๋ย บอกว่าชื่อเล่นว่าพรทิพย์ แต่ความจริงแล้วชื่อแม่หญิงสมฮัก ไซยะมูน มายืนรออยู่ แล้วชี้ให้เดินตรงไปยังร้านค้าปลอดภาษี ชื่อว่าร้านดาว มีทางแม่หญิงแอน รอรับอยู่ทางนี้ ให้พวกเราได้ไปเข้าห้องน้ำ แล้วนั่งพักผ่อนให้เรียบร้อย เพื่อรอทางด้านเจ้าหน้าที่ฝั่งลาว "จ้ำกา" หนังสือเดินทางของทุกคนในคณะให้ก่อน

การ "จ้ำกา" นั้นปรากฏว่าเกิดเป็นปัญหาใหญ่โตตรงที่ว่า ก่อนหน้านี้มีบางคนไม่ได้ประทับตราหนังสือเข้าเมือง จึงโดนปรับถึง ๔,๐๐๐ บาท ๕,๐๐๐ บาท ทำให้คนไทยส่วนหนึ่งแอนตี้การเดินทางเข้าสู่ประเทศลาว เจ้าหน้าที่ทางด้านนี้จึงพยายามแก้ตัวด้วยการอำนวยความสะดวกทุกอย่าง เมื่อเราเดินผ่าน ตม.ลาวเข้าไป จึงไม่ต้องหยุดตรวจใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะว่าหนังสือเดินทางและเอกสารอนุญาตเข้าเมืองทุกอย่าง ทางเอเย่นต์ทำไว้ให้หมดแล้ว

รถบัส ๒ ชั้น ทั้ง ๒ คันก็มารออยู่ฝั่งนี้ พวกเราจึงขึ้นรถบัส แล้ววิ่งตรงไปยังแขวงจำปาสัก ซึ่งเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งของลาวใต้ แต่ว่าเมืองจำปาสักนั้นถือว่าเป็นเมืองที่น่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง มีชื่อว่าเป็นเขต คือลักษณะจังหวัด แต่ว่าเล็กกว่าเมืองปากเซที่เป็นแขวง เหตุเพราะว่าการเดินทางสมัยก่อนทุรกันดารมาก บรรดาหน่วยงานต่าง ๆ ที่จะต้องติดต่อกับทางราชการ จึงไปตั้งอยู่ที่เมืองปากเซกันเสียหมด ทำให้ความเจริญไป "ตกคลั่ก" อยู่ที่เมืองปากเซ

คล้าย ๆ กับจังหวัดสงขลา ที่ความเจริญไปตกอยู่ที่อำเภอหาดใหญ่ จนกระทั่งหลายคนเข้าใจว่าเป็นจังหวัดหาดใหญ่ อำเภอสงขลา ทางด้านนี้ก็เหมือนกับว่าเป็นเมืองจำปาสัก แขวงนครปากเซ อย่างไรอย่างนั้นเลย

พวกเราเดินทางมาถึงร้านมะนิดา เป็นสวนอาหารต้อนรับลูกทัวร์ของเราที่นี่ เวลาบ่ายโมงกว่าแล้ว อาหารทุกอย่างก็เตรียมเอาไว้พร้อมมูล โดยเฉพาะโต๊ะพระที่กระผม/อาตมภาพเหมาอยู่คนเดียว และฉันปลานึ่งมะนาวไปครึ่งซีก พร้อมกับผักสด ๑ จาน ส่วนอื่นยกคืนให้กับทางคณะเอาไปแบ่งสันปันส่วนกัน แล้วเดินลงไปริมแม่น้ำโขง เพราะว่าบริเวณนี้ชื่อว่าหมู่บ้านหัวปลาข่อ หรือว่าหัวปลาช่อน แขวงเมืองปากซอง เขาบอกว่าถ้า "มาถึงเมืองปากซองต้องเห็นของใหญ่ เห็นของยาว"

คำว่า ของ ในที่นี้คือแม่น้ำโขง แต่คนไทยกับคนลาวออกเสียงต่างกัน คำว่า ของใหญ่ คือแม่น้ำโขงบริเวณนี้กว้างประมาณ ๒ กิโลเมตร ส่วนของแม่น้ำโขงที่กว้างที่สุดนั้นก็คือบริเวณหลี่ผี - คอนพะเพ็ง ที่กว้างถึง ๗ กิโลเมตร

ส่วนคำว่า ของยาว นั้นก็คือ เป็นมุมที่จะเห็นวิวแม่น้ำโขงเป็นระยะทางที่ไกลที่สุดเท่าที่จะเห็นได้ บริเวณอื่นก็ไม่สามารถที่จะเห็นได้อย่างนี้ เพราะว่าแม่น้ำโขงนั้นไหลคดเคี้ยวไปตามความเชื่อที่ว่า สุวรรณนาคราชทำการขุดคุ้ยแม่น้ำโขงขึ้นมา จึงคดเหมือนกับงูเลื้อย เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-11-2023 เมื่อ 03:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา