แล้วก็มีเรื่องให้เฮฮากัน เนื่องเพราะว่าผู้ขับเสภานั้น กล่าวถึงว่าทั้งสองกองทัพล้วนแล้วแต่มาจากกรมศิลปากรด้วยกัน มาห้ำหั่นฆ่าฟันกันทำไม ? ในเมื่อมาถึงวัดเขาวงแห่งนี้แล้ว ก็มาทำบุญกับท่านเจ้าคุณหลวงตาดีกว่า แล้วแถมทศกัณฐ์ก็ยังบอกว่าไม่ได้พกเสบียงมา ดังนั้น..จึงขออาหารเที่ยงจากท่านเจ้าคุณหลวงตาหนึ่งมื้อ แถมขอวัตถุมงคลอีกต่างหาก..! ทำให้กลายเป็นที่เฮฮาสนุกสนานกันโดยถ้วนหน้า
แต่ว่าในเรื่องของวรรณคดีไทยนั้น จะต้องกล่าวกันเอาไว้ให้ชัดเจนว่า ถ้าท่านทั้งหลายไม่ได้ศึกษาให้ละเอียด บางทีเราก็อาจจะไม่เข้าใจ เนื่องเพราะว่าเรื่องของโขนนั้น ต้องบอกว่าเป็นเรื่องของศิลปะชั้นสูง ซึ่งคนทั่ว ๆ ไป โอกาสที่จะได้ดูนั้นน้อยมาก โดยเฉพาะระดับโขนศิลปากรซึ่งครูบาอาจารย์แต่ละท่านที่ออกมานั้น ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสุดยอดนักการแสดงอยู่ในตัว นอกจากจะต้องแสดงเองแล้ว ยังต้องถ่ายทอดความรู้ให้กับคนรุ่นหลัง ๆ ต่อไปอีกด้วย
โดยเฉพาะบรรดาพญาวานร ๑๘ มงกุฎ ท่านทั้งหลายแค่จำชื่อก็ปวดหัวแล้ว เพียงแต่ถ้าได้เคยท่องจำมา ก็จะมีรายชื่อเรียงรายกันไป อย่างเช่นว่า
นิลเอกนิลนนท์ชมพูพาน
สุรเสนสุรกานต์ทหารใหญ่
ทั้งชามพูวราชฤทธิไกร
อายุสม์ได้โกฏิปีปลาย เหล่านี้เป็นต้น จึงเป็นเรื่องที่เราควรที่จะศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
สรุปว่าโขนตอนพระรามรบทศกัณฐ์ ที่วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) นั้น มีท้าวสักกเทวราช คือพระอินทร์เสด็จมาห้ามทัพ แล้วทั้งหมดก็ร่วมกันกินอาหารกลางวันด้วยกันที่วัดเขาวง ด้วยความสมัครสมานสามัคคี แถมยังรับวัตถุมงคลกลับไปเป็นที่ชื่นมื่นถ้วนหน้ากัน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-11-2023 เมื่อ 00:19
|