ถ้าหากว่าเราศึกษาเอาไว้ เพื่อที่จะได้บอกกล่าวสั่งสอนคนอื่นต่อไป ก็ยังจัดอยู่ในประเภทภัณฑาคาริกปริยัติ เรียนแบบคลังเก็บความรู้ ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรมากมาย ต้องเป็นนิสสรณัตถปริยัติ ก็คือเรียนแล้วนำไปปฏิบัติเพื่อให้เกิดความหลุดพ้น
ดังนั้น..ในเรื่องของพุทธนวัตกรรมการสื่อสารนั้น ถ้าหากว่าเราเน้นในเรื่องของการปฏิบัติธรรม ทำจนเกิดผลแล้วค่อยไปบอกกล่าวคนอื่น จะเป็นเรื่องที่บอกแล้วคนเชื่อ บอกแล้วขลัง แต่ถ้าเราทำไม่ได้ ไปบอกไปกล่าวคนอื่นเขา ก็จะเข้าไม่ถึงความเป็นอรรถเป็นธรรมที่แท้จริง
แบบเดียวกับพระเดชพระคุณพระโสภณกาญจนาภรณ์ (หลวงพ่อเจ้าคุณทอมสันต์) รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ก่อนหน้านี้ท่านสอนวิชาวิสุทธิมรรคศึกษาอยู่ แล้วท้ายสุดท่านก็บอกว่า "อาจารย์เล็ก..ช่วยสอนแทนผมหน่อยเถอะ ผมเองอ่านยังไม่เข้าใจเลย แล้วผมจะไปสอนให้ลูกศิษย์เข้าใจได้อย่างไร ?"
เพราะว่าท่านเป็นพระนักวิชาการ จบปริญญาโทจากอินเดียมา ต้องบอกว่าหลวงพ่อเจ้าคุณทอมสันต์ท่านเป็นบุคคลที่รู้ตัวเอง แล้วก็ยอมรับในข้อด้อยของตัวเอง ในเมื่อไม่ถนัด ไม่ชำนาญ ก็ไม่อยากทำให้ลูกศิษย์หลงทางหรือว่าไม่เข้าใจเหมือนกับตนเอง กระผม/อาตมภาพก็เลยต้องไปสอนวิสุทธิมรรคศึกษาแทนท่านอยู่หลายปีเหมือนกัน
ดังนั้น..เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าเราเน้นในเรื่องของ ศีล สมาธิ ปัญญา หลักการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าก็มีอยู่แล้วว่า สันทัสสนา ต้องบอกเล่าให้แจ่มแจ้ง ถ้าทำไม่ถึง จะไปแจ่มแจ้งไม่ได้หรอก สมาทปนา ต้องจูงใจให้อยากปฏิบัติตาม สมุตเตชนา ต้องอาจหาญแกล้วกล้า พร้อมที่จะมอบกายถวายชีวิตได้ และสัมปหังสนา ต้องมีความรื่นเริงด้วย พูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่ให้แห้งแล้งห่อเหี่ยวจนเกินไป
ส่วนวิธีการก็มีสารพัดวิธี ตั้งแต่อุปนิสินนกถา ประมาณว่าจับเข่าคุยกัน คำว่าอุปนิสินนะ แปลว่า เข้าไปนั่งใกล้ หรือธรรมีกถา บรรยายธรรม หรือปาฐกถา กล่าวในเรื่องต่าง ๆ ที่เขากำหนดให้ในที่สาธารณะ ไล่ไปจนกระทั่งถึงอนุสาสนีกถา จ้ำจี้จ้ำไช ปากเปียกปากแฉะอยู่ทุกวันอย่างที่กระผม/อาตมภาพทำอยู่นี่..!
วิธีการเหล่านี้มีมากมายอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าถ้าเป็นนวัตกรรมก็แค่ใช้เครื่องมือและวิธีการต่าง ๆ ของยุคสมัยนี้มาผสมผสานเข้าไป เพื่อให้สามารถเผยแผ่ได้ดีขึ้นเท่านั้น ดังนั้น..ในเรื่องพุทธนวัตกรรมการสื่อสาร กระผม/อาตมภาพอยากจะฟันธงว่า ไม่มีความก้าวหน้า มีแต่ถอยหลัง เนื่องเพราะว่าเราพึ่งพาอาศัยเครื่องมือมากจนเกินไป โดยที่ไม่ได้ฝึกฝนตนเองให้ก้าวหน้าขึ้นเลย..!
สำหรับวันนี้ก็เรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๒๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-10-2023 เมื่อ 01:45
|