ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 22-10-2023, 01:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,997
ได้รับอนุโมทนา 4,416,474 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากนั้นแล้ว รุ่นถัด ๆ มาก็จะมีหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จังหวัดระยอง ซึ่งไปเรียนกับหลวงปู่เหลือมา แล้วท่านไปถามหลวงปู่เหลือว่า "ท่านพี่..เสกปลัดขิกอย่างไรให้ดิ้นได้ บินได้ ?" หลวงปู่เหลือท่านก็ตอบอย่างเดียวว่า "ทำใจให้นิ่งเข้าไว้" กว่าที่หลวงปู่ทิมท่านจะเข้าใจคำว่า "ใจนิ่ง" นั้น ต้องถึงระดับฌาน ๔ ใช้งาน ก็เกือบจะสิ้นความพยายาม เมื่อท่านสร้างขึ้นมาก็จะมีปลัดขิกทั้งโค้ดศาลาและปลัดขิกโค้ดเลขสาม

ถัดจากนั้นมาแล้ว ที่ฝีมือเหลือร้ายเลยก็คือหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส กับหลวงพ่อฟัก วัดนิคมประชาสรรค์ ตลอดจนกระทั่งหลวงพ่อกลั่น วัดอินทราวาส สามสำนักนี้ ถ้าหากว่าใครมีเอาไว้ ต้องระมัดระวังให้ดี..!

โดยเฉพาะปลัดขิกนางครวญ หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ถ้าหากว่าผู้หญิงเดินข้ามปลัดขิกของท่าน เขาเล่ากันว่า ปลัดขิกถึงขนาดวิ่งตามผู้หญิงคนนั้นไปเลย เป็นมหาเสน่ห์รุนแรงมาก ถ้าหากว่าพระเณรมีติดตัวเอาไว้ ส่วนใหญ่ก็จะไม่สามารถคงความเป็นพระเป็นเณรได้..!

อีกส่วนหนึ่งก็คือท่านอาจารย์เฮง ไพรวัลย์ ซึ่งทำปลัดขิกได้ขลังมาก ในฐานะที่ท่านรู้ตัวว่าถ้าเป็นพระแล้ว จะทรงสมณเพศไว้ได้ยาก ท่านจึงสึกมาเป็นฆราวาสร้อนวิชา ลอยเรือไปตามท่าน้ำต่าง ๆ อยู่ที่โน่นที่นี่บ้าง แล้วก็สร้างวัตถุมงคลจนโด่งดังขึ้นมา ทั้งผ้ายันต์ต่าง ๆ มียันต์พรหมสี่หน้า เป็นต้น สำหรับรายถัดมาที่เรียนวิชานี้แล้วขลัง ก็ยังมีหลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม เป็นต้น

อีกสำนักหนึ่งที่เป็นปลัดขิก แต่ว่าส่วนใหญ่เอาไว้ตีกับชาวบ้านมากกว่า ในเรื่องของมหาเสน่ห์นั้นถือว่าเป็นผลข้างเคียง ก็คือหลวงพ่อโสก วัดปากคลองบางครก ซึ่งหนุ่มเพชรบุรีสมัยนั้นมีคติประจำตัวว่า "พระขรรค์เล่ม ปลัดขิกอัน ผ้ายันต์ผืน ลุยได้ทั่วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ..!"

คำว่าพระขรรค์เล่มก็คือพระขรรค์เขาควายเผือกฟ้าผ่าตายของหลวงพ่อโสก ซึ่งลงอาถรรพ์ในการถอนคุณถอนของทุกประการจนหมดสิ้น โดยเฉพาะบรรดาไสยศาสตร์อิสลามต่าง ๆ นั้น แค่ใช้พระขรรค์ของหลวงพ่อโสกแตะลงไป ก็สลายตัวหมดแล้ว..!

ในปัจจุบันนี้ ถ้าหากว่าเป็นรุ่นหลัง ๆ ที่ทำปลัดขิกแล้วขลัง ก็มีหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ซึ่งมาภายหลังก็ถ่ายทอดต่อให้กับลูกศิษย์ คือหลวงปู่นนท์ สำนักสงฆ์เขาพรานธูป เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-10-2023 เมื่อ 02:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา