ประโยชน์สุดท้ายท่านเรียกว่า ปรมัตถประโยชน์ ประโยชน์สูงสุด ก็คือการล่วงพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน
คราวนี้ในส่วนทั้งหลายเหล่านี้ สำคัญตรงที่ว่าแม้ว่าเราทั้งหลายจะอยู่ในระดับปรมัตถบารมี คือ กำลังใจสูงสุด แต่ว่ายังมีโอกาสพลาดได้ง่าย เราจึงต้องปฏิบัติธรรมบ่อย ๆ จนเคยชินเป็นอัตโนมัติ ถึงเวลาไม่ทำไม่ได้ รู้สึกไม่สบายใจ ต้องทำให้ได้ ถ้าในลักษณะอย่างนั้น ท่านทั้งหลายก็จะมีคติที่ไปค่อนข้างแน่นอน
ยกเว้นอย่างเดียวว่าจะมีในส่วนของกรรมที่มาตัดรอน เขาเรียกว่าอุปฆาตกรรม ถ้าเคยทำหนัก ๆ เอาไว้ บางทีก่อนเราตายกรรมตัวนี้โผล่ขึ้นมาตอนนั้น ทำให้ใจของเราผิดจากเป้าหมายไป แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วถ้าเราทำดีไว้จริง ๆ อย่างแย่ที่สุดเราก็ลงไปที่ตำหนักพระยายม แล้วท่านสอบสวนอย่างไรเราก็นึกถึงความดีได้อยู่แล้ว ท่านก็ให้เราไปเสวยบุญ ของพวกนี้ก็แค่แกล้งให้เราเสียเวลาช้าไปนิดหนึ่งเท่านั้น
แต่ถ้าหากว่าคติไม่แน่นอน เพราะว่าเราไม่ได้ทำจริงจังสม่ำเสมอ คราวนี้ก็เสี่ยงมาก โอกาสพลาดมีเยอะ จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายจะต้องคิดอยู่เสมอว่า กาย วาจา ใจ ที่ดีกว่านี้ยังมีอยู่ เราต้องทำกาย วาจา ใจ เหล่านั้นให้ได้ เป็นการประกันอนาคตตัวเอง ใครที่ชอบซื้อประกันให้รีบซื้อ กรมธรรม์นี้ รับประกันว่าก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งชาตินี้ ชาติหน้า และชาติต่อ ๆ ไป และเกิดประโยชน์สูงสุดก็คือ ถ้าทำได้ก็เข้าสู่พระนิพพานไปเลย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-10-2023 เมื่อ 01:52
|