ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 13-10-2023, 00:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,948 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ถ้าหากว่าเรารู้สึกว่าความตายไม่มีอะไรน่ากลัว เป็นแค่การเปลี่ยนร่างเท่านั้น ความกลัวก็จะลดน้อยถอยลงไปมาก เพราะว่าเรามองเห็นความเป็นจริง อวิชชาคือความมืดบอด บดบังใจของเราไว้ แต่ว่าปัญญาที่เหมือนกับแสงสว่างส่องเข้ามา ทำให้เราเห็นความจริงว่า สรรพสัตว์ทั้งหลายเกิดมาเท่าไร ตายหมดเท่านั้น ความตายเป็นธรรมดาของโลก ก็แค่การเปลี่ยนภพ เปลี่ยนภูมิ เปลี่ยนขันธ์ไปตามบุญตามกรรม ไม่ได้มีอะไรน่ากลัว ส่วนใหญ่ที่พวกเรากลัวตาย ไม่ได้กลัวตายอย่างแท้จริง แต่เป็นการกลัวเจ็บมากกว่า เจ็บมาก ๆ แล้วก็ตาย

คราวนี้ความตายนั้น พระพุทธเจ้าท่านกล่าวเอาไว้ ๓ แบบด้วยกัน แบบที่ ๑ คืออายุกขยมรณะ ตายเพราะหมดอายุ อย่างเช่นว่า คนเราในสมัยพุทธกาลมีอายุ ๑๐๐ ปีเป็นประมาณ แต่คราวนี้ระบบของวิวัฒนการ ๑๐๐ ปีผ่านไป อายุจะน้อยลง ๑ ปี ๑๐๐ ปีผ่านไป จะน้อยลง ๑ ปี ตอนนี้ผ่านไป ๒,๕๐๐ กว่าปี ก็ลดลงไป ๒๕ ปีเศษ อายุขัยของบุคคลปกติของเราในปัจจุบันคือประมาณ ๗๔ ปีครึ่ง ถ้าหากว่าถึงตรงนี้แล้วตาย เขาเรียกว่าตายเพราะหมดอายุ

ประการที่สองคือกัมมักขยมรณะ ตายเพราะหมดกรรม ตัวอย่างคือพระโลสกเถระ ตั้งแต่เกิดมา ในชีวิตไม่เคยได้กินอิ่มเลยแม้แต่วันเดียว ข้าวปลาอาหารทั่วไปกินไม่ได้ ได้แต่ไปเสาะหาอาหารที่เขาล้างภาชนะแล้วสาดทิ้งไว้ ก็พอจะมีเม็ดข้าวติดอยู่บ้าง เก็บเม็ดข้าวกินครบ ๗ เม็ดเมื่อไร อาหารเหล่านั้นก็จะหายไปหมด เหลือเชื่อว่าคนที่กินข้าววันละ ๗ เม็ด จะอยู่มาได้จนถึงอายุ ๒๐ ปีเศษ ?

เมื่อพระสารีบุตรพบเห็นก็เลยนำมาบวช หาอาหารให้ท่านฉันจนอิ่มด้วยกำลังฤทธิ์ของพระเถระ เกิดความสบายของร่างกายขึ้นมา เพราะว่าอิ่มเป็นครั้งแรกในชีวิต ก็มาพินิจพิจารณาว่า
ตนเองสร้างกรรมเอาไว้จนขนาดนี้ จึงไม่ได้อยากเกิดอีก ไม่ได้ต้องการร่างกายนี้อีก ไม่ได้ต้องการอยู่ในโลกนี้อีก จิตปลดจากเครื่องยึดเกาะทั้งปวง กลายเป็นพระอรหันต์แล้วก็มรณภาพเลย นั่นคือหมดกรรม

ประเภทที่ ๓ พระพุทธเจ้าตรัสว่า อุภยักขยมรณะ ก็คือรวมทั้งหมดอายุด้วย หมดกรรมด้วย อย่างเช่นว่าทนทุกข์ทรมานมาจนอายุ ๗๔ ปีครึ่ง พอดีชดใช้กรรมหมดแล้วตายลง ก็แปลว่าทั้งหมดอายุและหมดกรรมไปด้วยกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2023 เมื่อ 02:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา