ระหว่างที่เรียนอยู่ เห็นเพื่อนพระสังฆาธิการละเมิดศีลเป็นปกติ เกี้ยวพาราสีเพื่อนผู้หญิงที่เรียนร่วมห้องบ้าง กินอาหารหลังเที่ยงไปแล้วบ้าง แล้วครูบาอาจารย์หลายท่านก็ให้ท้าย บอกว่าพวกเราเรียนหนัก ใช้สมองมาก ถึงเวลาจะต้องหิวเป็นปกติ จะกินอาหารบ้างก็ไม่เป็นไร สามารถที่จะปลงอาบัติได้ กลายเป็นสอนให้ลูกศิษย์ทำชั่วไปอีก..!
ส่วนบรรดาพระสังฆาธิการ พอไปตำหนิเข้าว่า "ทำแบบนี้ อาบัติกินตายห่..เลยมึง..!" ท่านตอบว่า "อาบัติไม่กินพระแล้วจะกินใคร ? เพราะชาวบ้านโดนอาบัติไม่ได้..!" อยากจะบอกว่าจริงของแม่...เหมือนกัน..! แต่ท่านไม่ได้คำนึงถึงเลยว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้น สร้างความเสียหายแก่พระพุทธศาสนาอย่างไร ? ทำให้คนขาดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างไร ? เนื่องเพราะว่าเขาจะเลื่อมใสเรา ก็ต่อเมื่อเรามีอะไรที่ต่างจากเขา ถ้าเหมือนกันทุกอย่าง แล้วเขาจะไปเลื่อมใสทำไม ?
เพียงแต่ว่าพระภิกษุสามเณรสมัยนี้มักจะขาดสำนึก หรือว่าขาดสติในตรงนี้ มีอะไรก็ทำแข่งกับญาติโยมเขา กุฏิก็ติดเครื่องปรับอากาศทุกห้อง ศาลาก็ติดเครื่องปรับอากาศทั้งหลัง อยากสบายแบบนั้นแล้วบวชทำไม ? เพราะฉะนั้น..หลายท่านมาที่วัดท่าขนุนนี้แล้วอยู่ไม่ได้ เพราะว่าไม่มีห้องปรับอากาศให้ ล่าสุดที่ผ่านมาพวกท่านก็เห็น บรรดา "นิสิตพันธุ์ใหม่" ที่อยากจะเป็นคนเก่งคนกล้า มาถึงพอไม่มีห้องปรับอากาศเท่านั้นเอง ขอถอนตัว ไปนอนที่เขื่อนวชิราลงกรณ แล้วประเภทนั้นหรือ อยากที่จะเป็นคนพันธุ์ใหม่ ? ขนาดคนพันธุ์โบราณยังเป็นไม่ได้เลย..!
จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายต้องดูให้ชัดว่า วงการสงฆ์ของเราในปัจจุบันนี้ดูเหมือนกับก้าวหน้ามาก แต่เป็นการก้าวไปในทางที่ผิด การสาธารณสงเคราะห์อยู่ในลักษณะของการไปแจกข้าวของให้ถึงที่ ไม่ใช่การสอนให้เขาทำมาหากิน การแจก..คุณมีเท่าไรไม่พอแจกหรอก แต่ถ้าหากว่าทำอย่างในหลวงรัชกาลที่ ๙ ก็คือ "สอนให้ตกปลา" แล้วเขาจะมีปลากินตลอดชีวิต ไม่ใช่สอนโดยการเอาปลาไปให้เขากิน ถ้าอย่างนั้นคุณก็ต้องหาไปป้อนเขาอยู่ตลอดเวลา
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2023 เมื่อ 02:17
|