ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 11-09-2023, 00:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,667 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพียงแต่ว่าทุกวันนี้ทางทองผาภูมินั้น พระเณรอยู่ได้ด้วยพี่น้องมอญพม่า เกือบร้อยละ ๙๐ พี่น้องมอญพม่าจะใส่บาตรทุกวัน สร้างบุญสร้างกุศลใส่ตัวทุกวัน ถ้าไม่ใช่ต้องไปหาหมอ หรือว่าเจ็บไข้ได้ป่วยจนล้มหมอนนอนเสื่อ จะไม่ยอมขาดการใส่บาตรเป็นอันขาด

โดยเฉพาะในเขตเทศบาลตำบลทองผาภูมิที่กระผม/อาตมภาพนำสายบิณฑบาตวัดท่าขนุนออกรับบาตรทุกวันนั้น มีวัดที่บิณฑบาตถึง ๕ วัดด้วยกัน ก็คือวัดท่าขนุน วัดทองผาภูมิ วัดเวฬุวัน ของหลวงพ่อสาคร ธมฺมาวุโธ (พระครูภาวนาสุทธาจารย์) วัดจวบจันทร์วนาราม ของหลวงพ่อสอน รกฺขิโต วัดป่าผาตาดธารสวรรค์ ของหลวงพ่ออุดม ปทุโม (พระครูวิสุทธิกาญจโนดม) แล้วในปีนี้ยังมีวัดป่าไร่กระเตอ ที่เป็นวัดธรรมยุตเพิ่มขึ้นมาอีก ๑ วัด

ในเมื่อมีพระเดินบิณฑบาตถึง ๖ วัดด้วยกัน ถ้าหากไม่ใช่พี่น้องมอญพม่าใส่บาตรกันมากจริง ๆ ก็อาจจะมีอดกันบ้าง แต่ปรากฏว่าอย่างของวัดท่าขนุนนั้น ข้าวปลาอาหารได้มาเหลือเฟือทุกวัน ถึงขนาดต้องมอบหมายให้คณะ อสม.ตำบลท่าขนุน นำเอาอาหารที่เหลือหลังจากมื้อเพลแล้ว ไปมอบให้กับผู้ป่วยติดเตียง และผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ตลอดจนกระทั่งบรรดาผู้ต้องขัง

บางทีบรรดาต่างด้าวซึ่งเข้าเมืองมาเพื่อที่จะมาทำงานในบ้านเรา โดนกวาดจับไปได้ทีหนึ่ง ๓๐ - ๔๐ คน ทางท่านผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิก็ต้องติดต่อมายังวัดท่าขนุน ให้นำอาหารไปเลี้ยงผู้ต้องขังเหล่านี้ ถ้าวันไหนอาหารมีน้อย ไม่เพียงพอ กระผม/อาตมภาพก็ต้องสั่งแม่ชีหุงข้าว ทำกับข้าวต่างหาก เพื่อที่จะนำไปเลี้ยงคนทั้งหลายเหล่านี้ ซึ่งจะว่าไปแล้วก็มาช่วยทำงานในบ้านเรานี่เอง เพียงแต่ว่าเข้ามาแบบผิดกฎหมายจึงโดนจับกุม

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้นั้น ถ้าพูดถึงคนไทย กระผม/อาตมภาพก็ออกอาการ "น้ำตาจิไหล" เพราะว่ามีคนไทยที่ใส่บาตรเป็นประจำอยู่ประมาณร้อยละ ๑๐ เท่านั้น ส่วนที่เหลือก็อาจจะใส่บาตรปีละครั้งตอนวันเกิดตัวเองบ้าง ใส่บาตรช่วงปีใหม่ เพราะว่าทางเทศบาลตำบลทองผาภูมิและทางวัดท่าขนุนร่วมกันทำ "โครงการใส่บาตรพระ ๙๙ รูป สร้างกุศลรับปีใหม่" ทำให้คนไทยออกอาการใส่บาตรกันไม่เป็น

จึงน่าเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่งว่า
"ทำอย่างไรที่จะให้ญาติโยมทั้งหลาย รู้จักพื้นฐานการเข้าถึงพระพุทธศาสนาได้ดีกว่านี้ ?" หลังจากที่ปากเปียกปากแฉะ สั่งสอนญาติโยมมาจนอายุ ๖๐ กว่าปีเข้ามาแล้ว ยิ่งสอนญาติโยมส่วนหนึ่งก็ยิ่งไกลวัด..! จึงทำให้กระผม/อาตมภาพได้แต่ฝากความหวังไว้กับพระภิกษุสามเณรรุ่นหลัง ๆ ว่าจะมีความพากเพียรไม่ท้อถอยในการสั่งสอนญาติโยมกันต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-09-2023 เมื่อ 02:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา