แล้วที่อัศจรรย์ยิ่งกว่านั้นก็คือ ตลอดทั้ง ๑๐ ปี กระผม/อาตมภาพจะเสี่ยงเซียมซีได้แค่ใบเดียว ก็คือหมายเลข ๑๒ ซึ่งมีข้อความระบุอย่างชัดเจนว่า
"ใบที่ ๑๒ ต้องกันเหมือนจันทร์ฉาย
เปรียบดังต้นพฤกษีคราที่ตาย
แล้วกลับกลายฟื้นเป็นเหมือนเช่นเดิม
ได้ผลิดอกออกใบไสวสว่าง
ถูกน้ำค้าง ต้องลมประสมเสริม
เหมือนกระจกบานเก่าเมื่อคราวเดิม
ต้องเพิ่มเติมขัดถูจึงดูงาม ฯลฯ"
ต้องบอกว่าปีแล้วปีเล่าก็เสี่ยงได้เซียมซีอยู่ใบเดียว อ่านจนขึ้นใจ แต่ที่อัศจรรย์ยิ่งกว่านั้นก็คือ หลังจากครบ ๑๐ ปี ไม่ได้มาไหว้แม่ ปรากฏว่าเมื่อบวชแล้ว เป็นเวลาถัดจากนั้นมาเกือบ ๓๐ ปี กระผม/อาตมภาพได้เข้าไปสักการะ "ท่านแม่" อีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้พาคณะญาติโยมไปด้วย แล้วที่เหลือเชื่อก็คือ "เสี่ยงเซียมซีได้ใบที่ ๑๒ เหมือนเดิม..!" ซึ่งจากที่ท่านระบุเอาไว้ชัดก็คือ กระผม/อาตมภาพนั้นตายแล้วฟื้นใหม่ เพราะอย่างที่บอกเอาไว้ว่า "เปรียบดังต้นพฤกษีคราที่ตาย แล้วกลับกลายฟื้นเป็นเหมือนเช่นเดิม"..!
ดังนั้น..เมื่อถึงเวลาผ่านบริเวณสถานที่นี้ กระผม/อาตมภาพจึงสบายใจมาก ถวายกุศลต่าง ๆ ที่ทำมาให้แก่เจ้าแม่เบิกไพรและบริวารทั้งหลาย แล้วขอให้ท่านอำนวยความสะดวกให้ บางทีรถติดมาก ๆ กระผม/อาตมภาพไม่อยากจะติดด้วย ก็ขอให้ท่านแม่ช่วยสงเคราะห์ให้หน่อย แล้วเป็นเรื่องที่อัศจรรย์มาก เพราะว่ามีน้องเล็กเป็นพยานอยู่ทั้งคน ก็คืออยู่ ๆ ถนนทั้งสายที่รถวิ่งแน่นขนัดไปหมด เหมือนอย่างกับว่างโล่งไปเฉย ๆ อย่างกับใครเอาไม้กวาดไปกวาดรถอื่นทิ้งไปทั้งถนน..! ปล่อยให้รถเราวิ่งได้อย่างสบายมาก
แต่ว่าเรื่องพวกนี้ ถ้าไม่จำเป็นแล้วก็อย่าไปขอเลย เพราะเราไม่แน่ใจว่าท่านจะสงเคราะห์ให้ได้มากน้อยเท่าไร เอาไว้ตอนที่จำเป็นจริง ๆ แล้วค่อยว่ากัน ในเมื่อผ่าน "บ้านแม่" ทั้งที ก็เลยเล่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ให้แก่ญาติโยมได้ทราบเอาไว้ด้วย
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเราและบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-09-2023 เมื่อ 02:31
|