วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพพาพระวัดท่าขนุนออกบิณฑบาตตามปกติ ฝนฟ้าซึ่งตกกระหน่ำทั้งวันทั้งคืน ก็ทำให้เปียกกันพอประมาณสัณฐาน..!
เมื่อกลับมาแล้วก็ต้องรีบฉันเช้าด้วยสาเหตุ ๒ ประการ ประการแรกก็คือ ให้พระที่ท่านจีวรเปียกได้ไปซัก เปลี่ยนผ้าใหม่ และฉันยาแก้ไข้ไว้ก่อน อีกประการหนึ่งก็คือ กระผม/อาตมภาพต้องออกไป "งานวันรพี" ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ ซึ่งเป็นวันที่คนไทยทั่วไปไม่ค่อยจะรู้จัก นอกจากบุคคลในแวดวงนักกฎหมายหรือว่าตุลาการเท่านั้น
ขณะที่กำลังจะเดินทางออกจากวัด หลวงพ่อพระครูกาญจนปัญญาวุฒิ รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ วัดเขื่อนวชิรราลงกรณก็โทรมา เกรงว่ากระผม/อาตมภาพจะลืมกิจนิมนต์ แต่เมื่อทราบว่ากระผม/อาตมภาพกำลังเดินทางออกไปก็โล่งใจ จากเวลาที่นัดไว้ก็คือ ๐๘.๑๕ น. พบกันที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปถึงเวลา ๐๘.๑๓ น.
ปรากฏว่าหลวงพ่อพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ หลวงพ่อพระครูกาญจนปัญญาวุฒิ รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ พระครูพิสุทธิ์กาญจนภรณ์ เจ้าคณะตำบลท่าขนุน เขต ๑ พระครูกาญจนสิทธิคุณ เจ้าคณะตำบลสหกรณ์นิคม และพรรคพวกรวม ๘ ท่านมารอกันพร้อมเพรียงอยู่แล้ว มีกระผม/อาตมภาพที่มาตรงต่อเวลาอยู่คนเดียว..!
เมื่อเจ้าหน้าที่ถวายน้ำร้อนน้ำชาแล้ว ก็ขออนุญาตนำบาตรของกระผม/อาตมภาพไปเก็บที่รถ เนื่องเพราะว่าตอนแรกที่นิมนต์ ได้แจ้งไปว่าจะมีการใส่บาตร ให้นำบาตรมาด้วย แต่มีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการ เป็นถวายปิ่นโตทั้งเถาแทน แล้วไม่ได้แจ้งให้กระผม/อาตมภาพได้ทราบ จึงกลายเป็นคนเดียวที่สะพายบาตรมาด้วย..!
ทำให้นึกถึงหลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง ที่ได้รับนิมนต์พระราชทานฉันในพระบรมมหาราชวัง แล้วหลวงพ่อชาสะพายบาตรไปด้วย ปรากฏว่าบรรดาเจ้าคุณได้ถามว่า "หลวงพ่อสะพายบาตรมา ไม่อายในหลวงหรือครับ ?" หลวงพ่อชาท่านตอบกลับไปว่า "แล้วเจ้าคุณไม่อายพระพุทธเจ้าหรือ เพราะว่าพระพุทธเจ้าของเราบิณฑบาตตลอดชีวิต" เล่นเอาท่านเจ้าคุณทั้งหลายพูดไม่ออกไปตาม ๆ กัน ส่วนกระผม/อาตมภาพนั้นเฉย ๆ กับเรื่องแบบนี้ ให้เอามาก็คือเอามา เอามาแล้วไม่ได้ใช้งานก็แค่นำไปเก็บเท่านั้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2023 เมื่อ 02:04
|