เมื่อพวกเรารับยันต์ไปแล้ว อย่าไปทดลองแบบกระผม/อาตมภาพทำ เพราะว่าถ้าความบ้าไม่พออาจจะตายฟรี..! เพราะอาตมภาพไปไล่จับงูเห่า งูจงอางเล่นเป็นปกติ โดนงูกะปะกัดจมเขี้ยวตรงชีพจรข้อมือพอดี ก็เป็นเรื่องแปลกมากที่ไม่เป็นอะไรเลย ญาติโยมที่เห็นใจหายวาบ บอกว่า "ถ้าโดนไอ้ตัวนี้กัด พวกชาวสวนยางเขาต้องตัดขาทิ้งเลยครับอาจารย์"
อาตมภาพก็เอาน้ำล้าง ๆ พลาสเตอร์แปะแล้วก็ไปทำงานต่อ ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่หว่า..?! การทดลองแบบนี้ไม่ค่อยดี เนื่องเพราะว่าถ้ากำลังของเราไม่มั่นคง เราอาจจะใจฝ่อ ตายไปก่อนก็ได้
อีกประการหนึ่งก็คือ ในเรื่องของยันต์เกราะเพชร ท่านที่รับไปแล้ว อย่าประมาท อาตมภาพรับยันต์เกราะเพชรใหม่ ๆ ประมาณปี ๒๔๒๕ - ๒๕๒๖ ตอนนั้นอายุแค่ ๒๓ - ๒๔ ปี ห้าวมาก ไม่แขวนวัตถุมงคลอะไรเลย ถึงเวลานึกเมื่อไรก็เห็นยันต์เกราะเพชรสว่างไสวอยู่ในตัว จึงลุยร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ
จนกระทั่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเตือนว่า "แกประมาทเกินไป หลวงพ่อปานยังโดนเขาทำไสยศาสตร์ล้มทั้งยืน แล้วแกแน่มาจากไหน..! เพราะว่าคนเรา ถ้าหากว่าเผลอ ลืมภาวนา ก็อาจจะเป็นจุดให้คนอื่นเขาเล่นงานเราได้" เมื่อครูบาอาจารย์เตือน กระผม/อาตมภาพถึงได้แขวนวัตถุมงคลกับคนอื่นเขาบ้าง ก็แปลว่าญาติโยมอย่าได้ประมาท มีวัตถุมงคลติดตัวไว้จะดีกว่า
ถ้ามีวัตถุมงคลที่เป็นยันต์เกราะเพชรติดตัวอยู่ ถ้าเราละเมิดข้อห้าม อย่างเช่นว่าลักขโมยหรือว่ากินเหล้าเมายา ยันต์ก็แค่เลิกคุ้มครองชั่วคราวเท่านั้น กลับมาตั้งใจเป็นคนดี รักษาศีลใหม่ ยันต์ก็คุ้มครองใหม่ แต่ถ้าเป็นยันต์ที่เป่าติดตัวแล้วท่านไปละเมิดศีล ถ้าหายแล้วหายเลย ก็แปลว่าทั้งสองอย่างควรที่จะใช้รวมกัน ก็คือรับยันต์ติดตัวไปด้วย แล้วใช้วัตถุมงคลที่มีรูปยันต์เกราะเพชรติดตัวไปด้วย เป็นการ "เผื่อเหนียว" เอาไว้ก่อน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-07-2023 เมื่อ 02:59
|