ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 18-07-2023, 01:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,943
ได้รับอนุโมทนา 4,415,871 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อถ่ายรูปกันจนไม่มีอะไรเหลือแล้ว พวกเราก็ย้อนลงไปหาคุณเอ แล้วก็อ้อมไปยังชั้นที่ ๒ ที่มีกำแพง ซึ่งเขาเรียกว่ากำแพงกระจก เพราะว่าสมัยก่อนได้มีการฉาบปูน และไล้เรียบได้เงางามมาก ต้องขึ้นบันไดเวียนไปเพื่อชมรูปนางฟ้าต่าง ๆ ที่ยังเหลืออยู่หลายองค์ แต่ละองค์ทรวดทรงองค์เอวก็เหลือรับประทานทั้งนั้น แต่เขาไม่ให้ถ่ายรูป มีเจ้าหน้าที่เดินประกบติดอยู่ตลอดเวลา จึงต้องทำตัวเป็นพลเมืองดี รับฟังคำบรรยายอย่างเดียว จากนั้นก็ต้องเดินลงมาอีกด้านหนึ่ง ซึ่งตอนเดินขึ้นก็ไม่ได้รู้สึกว่าสูงมาก แต่ตอนเดินลง เมื่อเจอบันได้แห่งแล้วแห่งเล่า ก็รู้สึกว่าแข้งขาทำท่าจะอ่อนอยู่เหมือนกัน

ทางเดินด้านนี้ลงมาทางด้านที่จอดรถ แต่กว่าจะถึงที่จอดรถนั้น ก็มีร้านจำหน่ายน้ำที่พวกเราโดดเข้าใส่ด้วยความยินดี ของที่ระลึกต่าง ๆ ที่ประกอบไปด้วยร้านจำหน่ายพระพุทธรูป และข้าวของต่าง ๆ นับหลายสิบร้านนั้น พวกเราไม่ได้ใส่ใจเลย กระผม/อาตมภาพดื่มน้ำอัดลมไปประมาณครึ่งขวด แล้วมีลิงมาขอ ก็เลยส่งให้ไป ปรากฏว่าลิงนั้นไม่สามารถที่จะเปิดขวดได้ เพราะว่าปิดแน่นไปหน่อย แต่เขาก็ใช้วิธีกัดก้นขวดแล้วก็ดื่มแทน นับว่ามีความฉลาดมาก คนอื่นพยายามที่จะสอนลิงให้เปิดขวด จนเป็นที่ขบขันของบรรดานักท่องเที่ยวอื่น ๆ เป็นอย่างมาก..!

พวกเราออกจากพระราชวังลอยฟ้าแล้วก็วิ่งตรงไปยังเมืองแคนดี ซึ่งช่วงนี้ก็ถือว่าเรามาเกินครึ่งทางแล้ว ประกอบกับคณะเล็ก มีเวลาเหลือมาก ทางด้านเอ็นซีทัวร์จึงบริการด้วยการแวะสวนสมุนไพร Ranweli แม้ว่าเป้าหมายหลักก็คือจะให้พวกเราเข้าห้องน้ำ แต่ว่าเจ้าหน้าที่เขาทำงานดีมาก ออกจากห้องน้ำมาก็ต้อนให้พวกเราไปดูสมุนไพรใบยา ตลอดจนกระทั่งผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสมุนไพรต่าง ๆ ซึ่งเขายืนยันว่าที่เขาผลิตมานั้นปลอดสารพิษทั้งหมด ก็คือทำขึ้นมาจากสมุนไพรบริสุทธิ์จริง ๆ

ดูไปดูมาแล้วก็พาพวกเราไปชมสมุนไพรต่าง ๆ ที่ทางโรงงานได้ผลิตออกมา พร้อมกับบริการนวดให้อีกต่างหาก โดยเฉพาะเมื่อได้รับการประชาสัมพันธ์เป็นอย่างดี พวกเราจึงต้องเสียเงินให้กับเขาจนได้ แล้วถึงได้เดินทางต่อไปยังเมืองแคนดี

เมื่อเข้าเขตเมืองก็ปรากฏว่ารถเริ่มติด และที่พักของเราก็คือโรงแรมถั่วแปบนี้ก็อยู่บนยอดเขา จึงต้องค่อย ๆ ลัดเลาะขึ้นไป มีการวิ่งเลยเป็นการแถมให้ด้วย เพราะว่าทางเข้านั้นเป็นซอกเล็ก ๆ ทำเอาคุณอสังคะถลำเลยไปหลายร้อยเมตร เมื่อขึ้นไปถึงแล้ว ได้รับการต้อนรับด้วยน้ำดื่มและอัธยาศัยไมตรีอันดียิ่ง แต่ว่าพวกเราต้องแบ่งสันปันส่วนห้องกัน ก็คือทิดแจ๊คกับน้องโออยู่ชั้น ๑ กระผม/อาตมภาพกับคุณชวงอยู่ชั้น ๓ ไม่ทราบเหมือนกันว่าคุณเอไปอยู่ที่ชั้นไหน

ทุกคนที่เดินทางกันจนกระทั่งท้องกิ่วหิวไส้ขาด ก็เข้าไปในห้องอาหารที่ได้ยินว่าเตรียมข้าวปลาอาหารเอาไว้ให้เยอะมาก แล้วรสชาติดีมาก แต่กระผม/อาตมภาพไม่สามารถที่จะรับประทานอาหารกับใครได้ จึงเข้าสู่ที่พัก อาบน้ำอาบท่า แล้วหลังจากแผ่เมตตาขอบคุณบรรดาเจ้าที่เจ้าทางซึ่งอำนวยความสะดวกให้ตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะบรรยากาศที่เขาบอกว่ามีพายุอยู่ตลอดเวลา แต่พวกเราเจอแต่แดดเปรี้ยง อาบแดดจนกระทั่งสีสันตนเองใกล้เคียงกับบรรดาชาวศรีลังกาเข้าไปแล้ว เมื่อแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลเรียบร้อย ก็เข้าสู่นิทรารมณ์แบบสบายใจ

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๑๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-07-2023 เมื่อ 05:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา