เมื่อพวกเรากราบลาท่านแล้ว ก็ไปรอเวลา จนกระทั่งได้เวลาซึ่งเจ้าหน้าที่ท่านสะดวก ถึงได้เปิดให้พวกเราเข้าไปข้างใน มีกระผม/อาตมภาพที่เขาอนุญาตให้เข้าไปได้คนเดียว บรรดาฆราวาสทั้งหลายไม่อนุญาตให้เข้าไปได้ จึงต้องหามุมถ่ายรูปภายในออกมาให้ทุกคนดูให้ได้ แต่ว่าพระเจ้าหน้าที่ท่านก็ยืนประกบเลย บอกว่า "No Picture Bhante" ก็คือท่านผู้เจริญ..ห้ามถ่ายรูป..!
กระผม/อาตมภาพจึงเก็บกล้องถ่ายรูปซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือ กราบพระ สวดมนต์ถวายเป็นพุทธบูชา อุทิศส่วนกุศลเสร็จสรรพเรียบร้อย ก็ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูป แล้วก็ลาท่านกลับ ซึ่งก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าท่านเองเผลอสติหรือว่าอย่างไร เนื่องเพราะว่ายืนอยู่ติดกันแท้ ๆ แต่ก็ปล่อยให้กระผม/อาตมภาพถ่ายรูปไปแบบงง ๆ
พวกเราลงมาถ่ายรูปกันทางด้านล่าง เสร็จเรียบร้อยแล้วถึงได้กลับมารับรองเท้าคืน แล้วทุกคนบอกอย่างเดียวว่ากลับที่พัก เนื่องเพราะว่าเดินกันจนกระทั่งเท้าแทบจะหลุดออกจากตัว เมื่อมาถึงที่พักจึงไม่มีใครสนใจโลกแล้ว ต่างคนต่างอาบน้ำอาบท่า เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็คงจะสลบไสลกันไปเลย สำหรับวันนี้นั้น พวกเราจะเดินทางต่อไปยังสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง ก็คือพระราชวังลอยฟ้าสิคีริยา ถ้าหากว่ามีรายละเอียดอย่างไร ก็จะนำมาเล่าให้ทุกคนได้ฟังต่อไป
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-07-2023 เมื่อ 05:43
|