เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ไปตรงกับที่พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม องค์ประธานอำนวยการโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ที่ท่านให้นโยบายเอาไว้ว่า "งานของหมู่บ้านรักษาศีล ๕ เน้นไปเลยว่า ให้สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดรับผิดชอบ" เจริญ..คือแต่ละท่านที่ไป อย่างดีที่สุดก็เป็นแค่เจ้าสำนักปฏิบัติธรรม แต่กระผม/อาตมภาพเองเป็นประธานศูนย์ประสานงานสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดกาญจนบุรี ทั้ง ๔๔ แห่งอยู่ในมือของเราคนเดียว แล้วจะไปบีบคอให้เขาทำได้อย่างไร ?
ในส่วนที่พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จหนกลางปรารภก็คือว่า ถ้าพูดถึงการปฏิบัติธรรม คนก็จะนึกถึงสมาธิ เรื่องของศีล ๕ เป็นเบื้องต้นของสมาธิ ก็แปลว่าถ้าหากว่าเรานำเอาโครงการรักษาศีล ๕ ไปแนะนำให้ชาวบ้านเขาปฏิบัติ ก็ต้องเขาเห็นประโยชน์ด้วยว่ารักษาศีล ๕ แล้วได้อะไร ?
พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ ป.ธ.๙) อดีตผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ผู้ล่วงลับไปแล้ว ท่านเคยกล่าวเอาไว้ว่า
การรักษาศีลข้อที่ ๑ เป็นการประกันชีวิต ถ้าทุกคนรักษาศีลก็ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาฆ่าเรา
การรักษาศีลข้อที่ ๒ เป็นการประกันทรัพย์สิน ทุกคนรักษาศีลข้อนี้ได้ ไม่ต้องกลัวว่าข้าวของจะสูญหาย
การรักษาศีลข้อที่ ๓ เป็นการประกันครอบครัว ถ้าหากว่าไม่นอกใจกัน ครอบครัวก็ไม่แตกแยก
การรักษาศีลข้อที่ ๔ เป็นการประกันสังคม ไม่โกหก ไม่หลอกลวง ไม่ส่อเสียด ยุแหย่ให้คนแตกร้าวกัน สังคมเราจะสุขสงบ รักใคร่สามัคคีกันดี
ถ้าหากว่ารักษาศีลข้อที่ ๕ เป็นการประกันสุขภาพ คนที่ไม่กินเหล้าเมายา อย่างไรเสียสุขภาพก็ต้องดีกว่าคนกินเหล้าเมายา
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-07-2023 เมื่อ 02:23
|