ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 26-06-2023, 00:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,195 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ ทันทีที่เสียงระฆังบิณฑบาตดังขึ้น ฝนก็กระหน่ำลงมาเป็นฟ้ารั่ว แต่กระผม/อาตมภาพไม่เคยกลัวเรื่องฟ้าเรื่องฝนอยู่แล้ว เนื่องเพราะว่าทหารในกองทัพธรรมของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ดินเหนียว จะได้โดนฝนแล้วละลาย แล้วก็ไม่ใช่ขี้ผึ้ง จะได้โดนแดดแล้วละลาย จึงออกบิณฑบาตตามปกติ มีญาติโยมบางท่านถามว่า "หลวงพ่อไม่กลัวฝนหรือเจ้าคะ ?" ก็ตอบไปว่า "ถ้ากลัวฝนก็แปลว่าต้องไม่อาบน้ำด้วย" เล่นเอาอีกฝ่ายหนึ่งทำหน้าพิกล..!

ความจริงแล้วเรื่องนี้กระผม/อาตมภาพมีประสบการณ์มาตั้งแต่สมัยที่ยังอยู่ที่วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี วันนั้นฝนตกหนักมาก โดยเฉพาะมีน้ำป่าไหลหลาก น้ำป่าจาก "บึงทับแต้" หลากออกมาทาง "คลองยาง" แล้วก็พุ่งไปตาม "ลำน้ำสะแกกรัง" ถ้าถามว่ารุนแรงขนาดไหน ? ก็ต้องถามทิดประสิทธิ์ดู ทิดประสิทธิ์ ลิ้มอิ่ม หรือในตอนนั้นก็คือพระประสิทธิ์ สุธมฺมยาโน จะว่าไปแล้ว ก็บวชพรรษาเดียวกันกับกระผม/อาตมภาพนี่เอง แต่ว่าคนละรุ่นกัน

รุ่นของกระผม/อาตมภาพนั้นบวชรุ่นพิเศษ เพื่อแก้บนตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านได้บนกับพระเอาไว้ แล้วถัดมาก็เป็นรุ่นบวชเข้าพรรษา ก็คือรุ่นของท่านอาจารย์ตี๋ (พระนิติ สุธมฺมสุนฺทโร) ดังนั้น..พวกเราอายุพรรษาเท่ากัน เพียงแต่ว่ากระผม/อาตมภาพนั้นแก่เดือนกว่า เนื่องเพราะว่าบวชในวันพฤหัสบดี ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๖ ส่วนอีกหลายท่านที่บวชในพรรษานั้น ท่านบวชในช่วงเข้าพรรษา ก็คือประมาณต้นเดือน ๘

วันนั้นน้ำหลากออกจากบึงทับแต้มาตามคลองยาง แล้วก็พุ่งไปตามแม่น้ำสะแกกรัง ท่านประสิทธิ์เอาเรือออกบิณฑบาตตามปกติ ทันทีที่เรือเข้าไปถึงบริเวณนั้น ก็โดนน้ำดูด..วูบเดียวเท่านั้น..ไปไกลลิบเลย..! ขนาดทุกคนที่เห็นยังบ่นว่า "ทำไมแจวเรือได้เร็วขนาดนั้น ?" แต่ปรากฏว่า ๘ โมงครึ่งแล้ว ท่านประสิทธิ์ยังไม่กลับมา พวกเราทุกคนก็จำเป็นต้องรอ เพราะว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านกำหนดเอาไว้ว่า ให้สายบิณฑบาตทุกสายกลับมาพร้อมกันแล้วถึงจะฉันได้

จนกระทั่งเกือบจะ ๙ โมงเช้า ท่านประสิทธิ์ถึงได้แจวเรือกลับมาถึง พร้อมกับทำท่าจะเป็นลม..! ถามว่าทำไมถึงช้าขนาดนี้ ? ท่านบอกว่าน้ำหลากแรงมาก ขากลับต้องแจวเรือสวนน้ำขึ้นมา แจวเท่าไรก็ไม่ขยับเสียที จนกระทั่งต้องใช้วิธีเกาะชายตลิ่งดึงตัวเองมาทีละนิ้ว..ทีละนิ้ว..! กว่าจะมาถึงวัดอย่างที่เห็นนี่แหละ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-06-2023 เมื่อ 01:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา