แล้วต่อ ๆ มาก็คือบุคคลที่ติดตัวไว้เป็นเครื่องระลึกในถึงพุทธานุสติหรือว่าสังฆานุสติ เป็นการปฏิบัติกรรมฐานกองใหญ่โดยที่ไม่ต้องใช้ความพยายามมาก เพราะว่ามีเครื่องโยงจิตปรากฏให้เห็นชัดขึ้นและง่ายขึ้น
หลังจากนั้น ก็ยังมีอานุภาพพิเศษตามแต่ผู้ที่ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกจะให้เป็นไป ไม่ว่าจะเป็นด้านของมหาอุด คงกระพัน เมตตามหานิยม ให้ลาภ เรื่องพวกนี้ถือว่าเป็นของแถมที่เกิดขึ้น เนื่องเพราะว่าครูบาอาจารย์แต่ละรูป แต่ละองค์ สร้างบารมีมาไม่เหมือนกัน จริตนิสัยไม่เหมือนกัน เมื่ออธิษฐานจิตปลุกเสกพระเครื่องเหล่านี้ จึงทำให้เกิดอานุภาพที่ไม่เหมือนกัน และคนที่เอาไปใช้ก็เกิดผลมามากต่อมากด้วยกัน
แต่ "ตัวตึง" เหล่านี้ก็บอกว่าพุทธแท้ต้องไม่แขวนพระ กระผม/อาตมภาพอยากจะถามว่าพุทธแท้นั้นแท้ตรงไหน ? เนื่องเพราะว่าแม้แต่ศีล ๕ ซึ่งเป็นหลักประพฤติปฏิบัติของพุทธศาสนิกชนทั่วไป องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ยังดัดแปลงมาจากหลักศีล ๕ ของศาสนาเชน ก็คือของศาสดามหาวีระ แล้วท่านจะเอาความเป็นพุทธแท้ กรุณาศึกษาพระไตรปิฎกให้ละเอียดกว่านี้หน่อย จะได้ไม่สอนคนให้เป็นมิจฉาทิฏฐิ แล้วก่อให้เกิดโทษใหญ่แก่ตัวท่านเอง..!
กระผม/อาตมภาพเป็นห่วงท่านทั้งหลายเหล่านี้มาก เนื่องเพราะเคยมีประสบการณ์ที่ครูบาอาจารย์ท่านบอกกล่าวไว้ชัดเจนแล้วว่า บุคคลที่สอนคนเป็นมิจฉาทิฏฐิ ส่วนใหญ่ลงไปโลกันตนรก..! เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าบุคคลที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ ถึงเวลาต้องตกสู่อบายภูมิ ถ้าหากว่าลงนรกเลย โทษเก่ามีเท่าไรก็ต้องชดใช้เขาจนหมด แล้วเศษกรรมก็ทำให้ต้องเกิดมาเป็นเปรต ชดใช้กรรมในแดนเปรตจนหมด ก็ต้องมาเกิดเป็นอสุรกาย เมื่อชดใช้กรรมในเขตอสุรกายจนหมด ต้องเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานตามจำนวนที่ตนเองเคยฆ่าไว้..!
กว่าที่จะได้เกิดเป็นมนุษย์นั้น บางทีพระพุทธเจ้าตรัสรู้ผ่านไปหลายองค์แล้ว ก็ยังไม่สามารถที่จะกลับมาเป็นมนุษย์ได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-06-2023 เมื่อ 01:23
|