ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 18-05-2023, 22:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,696
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,127 ครั้ง ใน 34,286 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในส่วนนี้ เมื่อท่านภาวนาแล้วต้องตัดความอยากรวยออกไปด้วย เพราะว่าถ้าท่านทำเพราะอยากรวย ความอยากที่ขึ้นหน้ามาก็จะบังผลที่จะพึงได้ของพระคาถาไปเสียหมด ดังนั้น..ก่อนภาวนาท่านจะอยากขนาดไหนก็ตาม ถึงเวลานั้นท่านจะต้องลืมความอยากนั้นเสีย ตั้งหน้าตั้งตาภาวนาอย่างเดียว

ก็แปลว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้คือการใช้ปัญญาในเบื้องต้น คือแบ่งเวลาแบ่งจำนวนในการปฏิบัติ พยายามที่จะวางกำลังใจให้ถูกต้อง จัดเป็นปัญญาเบื้องกลาง ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายภาวนาไป แล้วเห็นทุกข์เห็นโทษว่าเราต้องมาเหน็ดเหนื่อยทำอยู่ทุกวัน กว่าที่จะร่ำรวยอย่างที่ตนเองต้องการได้ ขึ้นชื่อว่าความทุกข์ยากลำบากเช่นนี้ เราไม่พึงปรารถนาอีก ตายเมื่อไร เราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว ก็แปลว่าท่านทั้งหลายมีปัญญาในเบื้องปลาย คือรู้สึกเบื่อหน่าย คลายกำหนัด ค่อย ๆ ละ ค่อย ๆ วาง จากสิ่งที่ท่านยึดถือ

ก็คือตอนแรกเราต้องยึดดี เกาะดี เพื่อป้องกันการพลาดไปสู่ทุคติ ในเมื่อท่านทั้งหลายเกาะดีไปจนถึงที่สุดแล้ว ท่านทั้งหลายปล่อยจากความดีนั้น กำลังใจไม่เกาะทั้งดีทั้งชั่ว ก็เป็นอันว่าท่านทั้งหลายพ้นดี พ้นชั่ว พ้นจากโลก สามารถล่วงพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้

นี่คือสิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเมตตาสั่งสอนลูกศิษย์มา แล้วกระผม/อาตมภาพนำมาบอกกล่าวให้ท่านทั้งหลายได้ปฏิบัติต่อ บุคคลที่ตั้งใจทำตามและเห็นผล มีความเจริญรุ่งเรือง ทั้งหน้าที่การงาน ฐานะ และการเงินมามากต่อมากแล้ว แต่ว่าบุคคลที่ท่าน "สิ้นคิด" ยังไม่ได้ทดลองทำด้วยตัวเองแม้แต่น้อย มากล่าวในลักษณะที่ว่า "เสียเวลาที่ไปทำ ให้ไปภาวนาดีกว่า" แสดงว่าท่านไม่ได้เข้าใจเลยว่า คำว่าภาวนานั้นคือทำอย่างไร ?

ทำให้กระผม/อาตมภาพนึกถึงองค์สมเด็จพระบรมครูของเรา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในสมัยที่เผยแผ่พระพุทธศาสนานั้น ต้องเผชิญกับแนวคิดของศาสดาเจ้าลัทธิต่าง ๆ อย่างน้อยก็ถึง ๖๒ ลัทธิด้วยกัน พระองค์ท่านไม่เคยตำหนิติเตียนเลยว่าแนวทางการปฏิบัติของใครไม่ดี หากแต่พระองค์ท่านต่อยอดให้เขาทั้งหลายเหล่านั้น ประพฤติปฏิบัติในแนวทางที่ดีกว่าเสมอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-05-2023 เมื่อ 01:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา