[เถรี]

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพรับหน้าที่เป็นวิทยากรบรรยายการอบรมในโครงการพัฒนานักบริหารระดับสูงกระทรวงศึกษาธิการ (นบส.ศธ.) รุ่นที่ ๑๓ ซึ่งมีผู้บริหารระดับสูงเข้ารับการอบรมทั้งสิ้น ๙๐ คน ที่ศาลาเอนกประสงค์ วัดหนองโพ ถนนเพชรเกษม หมู่ที่ ๙ ตำบลหนองโพ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี

หัวข้อที่กระผม/อาตมภาพได้รับในครั้งนี้ก็คือปกิณกธรรม จึงได้บอกกับบรรดาท่านผู้บริหารระดับสูงไปว่า ความจริงแล้วท่านทั้งหลายได้ปฏิบัติตามสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนกันแล้วทุกคน ก็คือปฏิบัติตามหลักไตรสิกขา คือ ศีล คือสมาธิ คือปัญญา เพียงแต่ว่าท่านทั้งหลายทำได้ แต่เรียกไม่ถูกเท่านั้นว่าสิ่งที่ตนเองทำนั่นคืออะไร

ท่านทั้งหลายเมื่อถึงเวลาก็มาปฏิบัติตามระเบียบของโครงการอบรม ตลอดจนกระทั่งระเบียบของสถานที่ ก็คือวัดหนองโพ ว่ามีอะไรให้เราต้องประพฤติปฏิบัติตามบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็ต้องหักห้ามใจ ละเว้นในสิ่งที่ตนเองเคยทำในขณะที่ไม่ได้มาอบรมทั้งสิ้น

การที่ท่านทั้งหลายสามารถปฏิบัติตามระเบียบ ตามข้อห้ามต่าง ๆ นั้นคือศีล การที่ท่านทั้งหลายหักห้ามใจ ไม่ละเมิดข้อห้ามทั้งหลายเหล่านั้น คือกำลังของสมาธิ ถ้าสมาธิของท่านไม่ดีพอ ท่านไม่สามารถที่จะห้ามใจตนเองให้กระทำในสิ่งที่ชอบได้ แล้วในขณะเดียวกัน ท่านก็มีปัญญา รู้ว่าสถานที่นี้คือวัด กาลเทศะอันใดที่เหมาะสม ท่านก็ได้กระทำในเมื่ออยู่กับวัดในฐานะอุบาสก อุบาสิกา แปลว่าท่านทั้งหลายได้กระทำในหลักศีล สมาธิ ปัญญา ในเบื้องต้นแล้ว

หลังจากนั้น กระผม/อาตมภาพก็ได้ว่าไปจนจบชั่วโมงบรรยายตอนเวลา ๑๑.๔๐ น. ในช่วงนั้นก็ทำให้นึกถึง เมื่อไม่กี่วันก่อนมีผู้ส่งคลิปมาให้ดู เป็นบุคคลหนึ่งที่น่าจะ "สิ้นคิด" ถึงได้กล่าวว่า "การภาวนาพระคาถาเงินล้านนั้นไร้ประโยชน์ เสียเวลาไปทำเปล่า ๆ"