วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพเพิ่งกลับจากการอบรมผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสใหม่ ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ รุ่นที่ ๒/๒๕๖๖ ซึ่งพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เมตตาเดินทางมาเป็นประธานมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ผ่านการอบรมและให้โอวาท
ส่วนหนึ่งที่พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จหนกลางเป็นกังวลมากก็คือว่า ในปัจจุบันนี้พระภิกษุสามเณรของเราหลงประเด็นกันไปไกลมาก เกิดเรื่องราว เกิดปัญหา แทนที่จะปรึกษาผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น กลับไปปรึกษาทนาย แล้วก็ทำให้มีการฟ้องร้องกันตามแต่ทนายจะแนะนำ
ยังโชคดีที่ว่าคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่หลายสิบปีก่อนที่พระเดชพระคุณพระธรรมคุณาภรณ์ (ไพบูลย์ กตปุญฺโญ ป.ธ.๘) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ท่านยังมีชีวิตอยู่ และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ท่านบอกอยู่เสมอว่า "เป็นพระอย่าไปฟ้องร้องกับญาติโยม ต่อให้ชนะ ภาพพจน์ของความเป็นพระก็เสียไปแล้ว"
หลายท่านไม่ค่อยจะคำนึงถึงตรงนี้ เมื่อทนายแนะนำว่ามีโอกาสชนะได้ ก็ทำการฟ้องร้องแบบ "ไม่ดูตาม้าตาเรือ" บางคนเพิ่งขึ้นเป็นเจ้าอาวาส บารมียังไม่มี ฝีมือยังไม่ปรากฏ แล้วไปทำการฟ้องร้อง ญาติโยมก็ไม่เกรงใจ มีเท่าไรก็ใส่กลับกันอย่างเต็มที่ ต่อให้พระเราเป็นฝ่ายชนะ ก็สร้างศัตรูให้กับวัดไปแล้ว
โดยเฉพาะในเรื่องของการหลงประเด็นนี้ ในปัจจุบันเป็นกันมาก ส่วนหนึ่งเกิดจากบรรดาสื่อต่าง ๆ ที่นำเสนอไป อย่างเช่นว่าพอเกิดเหตุขึ้น สมมติว่ามีพระภิกษุสงฆ์เสพเมถุนกับสตรี ก็มีการฟ้องร้องกัน ปัจจุบันนี้ก็มักจะไม่ค่อยจะฟ้องร้องตามลำดับชั้น อย่างเช่นว่า ถ้าเป็นพระลูกวัด เราต้องฟ้องร้องกับเจ้าอาวาส เป็นเจ้าอาวาสต้องยื่นเรื่องฟ้องต่อเจ้าคณะตำบล เป็นเจ้าคณะตำบลต้องยื่นเรื่องฟ้องต่อเจ้าคณะอำเภอ เป็นเจ้าคณะอำเภอต้องยื่นเรื่องฟ้องต่อเจ้าคณะจังหวัด ฯลฯ เป็นลำดับชั้นไปอย่างนี้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2023 เมื่อ 02:32
|