ท่านมาบอกกล่าวทีหลังว่า "เมื่ออยู่ท่ามกลางบุคคลที่แปลกหน้า แม้ว่าจะอยู่ร่วมกันหลายวันก็ตาม แต่พอเห็นหลวงพ่อเล็กมาถึงผมน้ำตาคลอเลย ด้วยสาเหตุ ๒ ประการด้วยกัน ประการแรกก็คือเป็นพรรคพวกเพื่อนฝูงที่รู้จักมักคุ้นกัน ประการที่สอง ท่านเป็นเจ้าคณะปกครองระดับผู้บังคับบัญชา แต่ว่ายังอุตส่าห์มาเยี่ยมยามถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ รู้สึกตื้นตันในอกจนแทบจะพูดไม่ออก"
เรื่องเหล่านี้กระผม/อาตมภาพได้ถือเป็นภาระหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นการอบรม หรือว่าการปฏิบัติงานในโครงการไหนก็ตาม ถ้าหากว่าสามารถปลีกตัวไปได้ กระผม/อาตมภาพก็จะปลีกตัวไป สนับสนุนท่านเจ้าของสถานที่ และเป็นกำลังใจให้แก่ผู้เข้าอบรมซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่เสมอ เรียกว่าแสดงน้ำใจกันตอนเป็น ดีกว่าไปเห็นหน้ากันตอนตาย..!
เมื่อไปถึงแล้ว ท่านเจ้าคุณอาจารย์บุญส่งบอกว่า พระเดชพระคุณพระเทพปฏิภาณวาที (สุนทร ญาณสุนฺทโร) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าเจ้าคุณพิพิธฯ วัดสุทัศนเทพวราราม ท่านติดภารกิจช่วงเช้า ยังไม่สามารถเดินทางมาตามเวลาได้ จึงให้กระผม/อาตมภาพทำการบรรยายแทนไปก่อน
กระผม/อาตมภาพที่เป็นมวยแทน ก็ขึ้นบรรยายโดยบอกกล่าวแก่บรรดาผู้เข้ารับการอบรมว่า ในเรื่องของการเป็นผู้เทศนาสั่งสอนนั้น ถ้าหากว่าเราสามารถทำหน้าที่ได้ดี ก็จะนำพาให้บุคคลเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาได้มากต่อมากด้วยกัน ตัวอย่างก็คือหลวงตาแพร-เยื่อไม้ พระครูพิศาลธรรมโกศล (สุพจน์ กญฺจนิโก) อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดประยุรวงศาวาส เป็นต้น
อีกส่วนหนึ่งก็คือ การมาอบรมนั้น เราได้ครูบาอาจารย์ที่ดี ได้ความรู้ ได้หลักการ วิธีการปฏิบัติต่าง ๆ ที่ถูกต้องในฐานะของ "ศิษย์มีครู" ได้รู้วิธีการว่า จะเผยแผ่อย่างไรจึงจะเป็นที่สนใจของญาติโยม ได้พรรคพวกเพื่อนฝูงร่วมรุ่น เป็นเครือข่ายที่จะช่วยเหลือกันต่อไปในภายหน้า เหล่านี้เป็นต้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2023 เมื่อ 01:31
|