หลังจากนั้นก็ได้กราบลาทุกท่าน เดินทางเข้ามาพักที่วัดท่ามะขามอีกรอบหนึ่ง เพราะว่างานต่อไปก็คืองานทำบุญถวายพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชรัตนวิมล (พยุง ฐิตสีโล ป.ธ.๔) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี อดีตเจ้าอาวาสวัดกาญจนบุรีเก่า ซึ่งมรณภาพครบรอบปีไปแล้ว
ความจริงหลวงพ่อท่านมรณภาพในวันที่ ๙ เมษายน แต่ว่าถ้าหากทำบุญช่วงนั้นก็อาจจะไม่สะดวก ทางด้านพระครูกาญจนกิจโสภณ, ดร. เจ้าอาวาสวัดกาญจนบุรีเก่ารูปใหม่ เจ้าคณะตำบลทุ่งลาดหญ้า จึงได้เลื่อนมาทำบุญในวันนี้ ซึ่งเป็นการทำบุญช่วงสงกรานต์ จะได้รวมสองงานเป็นงานเดียว ถือว่าเป็นการประหยัดไปในตัว
แต่ว่าการกลับมาพักที่วัดท่ามะขามนั้น กระผม/อาตมภาพเพิ่งจะเข้าใจว่าทำไมบุคคลถึงเป็นลมแดด เนื่องเพราะว่าตนเองอยู่ในมณฑลพิธีหล่อพระที่ร้อนมาก เมื่อกลับถึงที่พัก ทำการเปลื้องจีวรและสังฆาฏิออกแล้ว จึงได้เห็นว่าตนเองนั้น อังสะเปียกโชกไปเกือบครึ่งตัว..! เพราะว่าอยู่ในมณฑลพิธีที่ร้อนมาก
บางคนเคยบอกว่า "พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบไม่มีเหงื่อ" กระผม/อาตมภาพอยากจะบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นพระระดับไหนก็มีสภาพขันธ์ ๕ เหมือน ๆ กัน ดันไปจับเอาพระพุทธวจนะที่ตรัสกับสัจจกพราหมณ์ ซึ่งมาโต้วาทีกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เมื่อถึงเวลาจนแต้มแล้วก็เหงื่อท่วมตัว แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเปิดจีวรให้ดูว่าพระองค์ท่านไม่มีเหงื่อเลย ซึ่งความจริงเหงื่อตรงนั้นก็คือเหงื่อจากความตื่นเต้น ไม่ใช่เหงื่อจากความร้อนตามปกติ
องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เมื่อไม่มีความตื่นเต้นกับใคร จึงไม่มีเหงื่อไหลออกมาเหมือนสัจจกพราหมณ์ที่เหงื่อท่วมตัวเพราะจนแต้ม ไม่สามารถที่จะตอบปัญหาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้
กระผม/อาตมภาพเองก็ยังขำอยู่ว่า ตนเองก็ไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แต่ก็ดันมีผู้ที่มาฟันธงว่ากระผม/อาตมภาพเป็นพระสุปฏิปันโนแน่แล้ว ในเมื่อเป็นพระสุปฏิปันโน ทำไมถึงยังมีเหงื่ออยู่ ? จึงเป็นเรื่องที่ "หัวเราะไม่ออก ร้องไห้ไม่ได้" เพราะว่าท่านทั้งหลาย "ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด" เอาเรื่องโน้นไปปนกับเรื่องนี้ สับสนวุ่นวายไปหมด ซึ่งภายหลังก็จะทำให้สัทธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีการเลือนลางผิดเพี้ยนไปมากต่อมากด้วยกัน
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-04-2023 เมื่อ 02:05
|