ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 16-04-2023, 00:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,731
ได้ให้อนุโมทนา: 152,099
ได้รับอนุโมทนา 4,419,616 ครั้ง ใน 34,321 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เปิดเพลงฟัง สบายใจมาก ไม่เคยโดนด่า เพราะว่าอาตมภาพเองแพ้เสียงผู้หญิงอยู่สองคน รุ่นเก่าคือคุณวงจันทร์ ไพโรจน์ โดยเฉพาะเพลงกุหลาบเวียงพิงค์ รุ่นใหม่ก็คือคุณสุนทรี เวชานนท์ ใหม่สมัยโน้นนะ..ไม่ใช่สมัยนี้..! โดยเฉพาะเพลงสาวเชียงใหม่ ล่องแม่ปิง

เปิดฟังกันทุกวัน ๆ ละหลาย ๆ รอบ พี่น้องเพื่อนฝูงก็ลุ้นอยู่อย่างเดียว "เมื่อไรหลวงพ่อจะฟาดมันให้กบาลแยกสักที..!" แต่ไม่เคยโดน ไอ้คำว่า "เด็กเส้น" ก็เลยลือกันมากขึ้นไปทุกที แต่ความจริงก็คือฟังแล้วตั้งใจภาวนาสู้กิเลส ทำอย่างไรเมื่อเจอสิ่งที่เราชอบแล้วเราจะไม่ไหลตามไป ? เรื่องพวกนี้เผลอเมื่อไรพังทันทีเลยนะ..! เพราะว่าใจเราเคยชินกับสิ่งที่ไม่ดีมาก่อน

แบบเดียวกับที่
กระผม/อาตมภาพเคยบันทึกการเดินทางเอาไว้ เรื่องที่เข้าไปที่เมืองลับแล ๕ วัน ๕ คืนในนั้น ใจทรงตัวเป๊ะ..ไม่ต้องภาวนาเลย เพราะว่ากลัวอันตราย แต่คราวนี้พอขากลับออกมา เริ่มจำภูมิประเทศได้ว่า เดินจากตรงนี้อีกประมาณชั่วโมงเดียวก็เจอบ้านคนแล้ว พอจำทางได้ ไอ้ใจที่ทรง ๆ อยู่ หลุดไปตอนไหนก็ไม่รู้ ? เลิกภาวนาไปดูฟ้าดูดินแทน..!

ในป่าดงดิบต้นไม้มาก ทึบมาก แสงแดดมันส่องมาเป็นเส้น ๆ แล้วไอ้ความชื้นก็เป็นหมอกลอยขึ้นไปเป็นเกลียว ดูแล้วสวยมาก ไม่รู้เหมือนกันว่าเสียงเพลงดังขึ้นมาในหัวตอนไหน "ดวงตะวันลับทิวแมกไม้ ใจพี่ก็หาย..หายลับไปกับตะวัน ฯลฯ" ทั้ง ๆ ที่เพลงนี้เคยร้องตั้งแต่สมัยฆราวาสนะ นานมากแล้ว

ปรากฏว่าใครก็ไม่รู้เมตตา ถีบตูมเดียวลงไปอยู่ในลำห้วย สมน้ำหน้าตัวเอง..! แล้วคิดดูว่าปลายเดือนพฤศจิกายนนั้นหนาวตายชักขนาดไหน !? หัวถึงตีนเปียกหมด ไม่มีอะไรเหลือเลย ข้าวของทั้งย่ามก็เปียกหมด เดินสั่นแหง็ก ๆ กว่าจะถึงหมู่บ้าน ตะคริวจะกินตาย..!

ดังนั้น..เรื่องพวกนี้ ถ้าเราจะสู้กับกิเลส ให้หาทางสู้กับสิ่งที่ไม่เป็นอันตรายกับเรามาก อย่างเช่นว่าชอบฟังเพลงก็สู้กับเพลง ชอบดูมวยก็สู้กับมวย ชอบดูฟุตบอลก็สู้กับฟุตบอล ชอบน้องลิซ่าก็เปิดทุกเพลงไปเลย แล้วดูว่าใจเราไหลไปตอนไหน ? ตอนที่ไม่ไหลตาม เรารักษากำลังใจอย่างไร ? ต้องหมั่นซักซ้อมบ่อย ๆ แบบนี้ ความก้าวหน้าถึงจะมีขึ้นมาได้ พูดไปพูดมา จากสงกรานต์กลายเป็นกรรมฐานไปได้เหมือนกัน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๑๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-04-2023 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา