ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 15-04-2023, 00:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,416,023 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ว่าศาสนาพุทธของเราเมื่อเกิดขึ้นมา พระพุทธเจ้าท่านสอนในเรื่องของเทวตานุสติ คือการระลึกถึงความดีของเทวดา แล้วไม่ได้นึกถึงเฉย ๆ หากแต่สอนวิธีการทำตนเองให้เป็นเทวดาด้วย

อย่างเช่นว่าถ้ามีศีล ๕ บริสุทธิ์บริบูรณ์ท่านก็จะเป็นเทวดานางฟ้าได้

ถ้ามีศีลบริบูรณ์ แล้วทรงฌานสมาบัติได้ ก็จะเป็นพรหมไปตามกำลังฌานของตนเอง

แต่ถ้าไม่นิยมการเกิด ถอนใจจากการยึดเกาะทั้งปวงได้ ก็จะกลายเป็นพระวิสุทธิเทพ เทวดาผู้บริสุทธิ์สิ้นเชิง เข้าพระนิพพานไป


เมื่อพระพุทธเจ้ามาชี้แจงแสดงเหตุในเรื่องของเทวตานุสติแบบมีเหตุมีผล และตนเองสามารถทำตนให้เป็นเทวดาได้ ไม่ว่าจะเป็นเทวดาขั้นต้น ขั้นกลาง หรือขั้นสูงสุด จึงทำให้บุคคลที่มีปัญญาหันมานับถือพระพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก แล้วก็ทำให้พระพุทธศาสนาตั้งมั่นในชมพูทวีปมาได้

ที่เล่าให้ฟังก็เพราะว่า ในเรื่องของสงกรานต์นั้น เขากล่าวถึงเรื่องของเทวดาระดับกลาง ก็คือท้าวกบิลพรหม ไปพนันแล้วแพ้มนุษย์ ก็คือธรรมบาลกุมาร ต้องตัดศีรษะเพื่อบูชาปัญญาของธรรมบาลกุมาร หลายท่านก็จะสงสัยว่าทำไมถึงได้ยุ่งเหยิงขนาดนั้น ก็ขอให้เข้าใจว่าเทวดา พรหมของทางฮินดูนั้นกิเลสมากกว่ามนุษย์ทั่ว ๆ ไปอีก เพราะคนแต่งตำราก็คือมนุษย์ขี้เหม็นนั่นแหละ ตัวเองคิดอย่างไร ทำอย่างไร พูดอย่างไร ก็คิดว่าเทวดาก็คิดอย่างนั้น พูดอย่างนั้น ทำอย่างนั้น ก็สรุปได้ว่า ใครทำอะไรได้แค่ไหน ก็พูดแค่นั้น ก็ทำแค่นั้น

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๑๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-04-2023 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา