อย่าลืมว่าในฐานะของพระภิกษุสามเณร เราต้องเป็นที่พึ่งของชาวบ้านเขาด้วย ไม่ใช่เอาตัวรอดคนเดียวแล้วจบ พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้เป็นบาลีชัดเจน สุทนฺโต วต ทเมถ อตฺตา หิ กิร ทุทฺทโม ผู้ฝึกตนดีแล้วสมควรช่วยฝึกผู้อื่น ชื่อว่าการฝึกตนนั้นช่างยากจริงหนอ ปรากฏว่าเราได้แค่ประโยคหลัง ก็คือฝึกยาก ไม่ต้องไปหวังเลยว่าฝึกดีแล้วจะไปช่วยคนอื่นเขา..!
ตราบใดที่เรายังต้องอาศัยครูบาอาจารย์คอยบอกคอยกล่าว ปากเปียกปากแฉะ จ้ำจี้จ้ำไชอยู่ทุกวัน ตราบนั้นยังเอาดีไม่ได้ ก็แบบเดียวกับในโครงการอบรมที่ผ่านมา ๕ วันแรกกระผม/อาตมภาพนำให้เขาทุกวัน พอวันที่ ๖ วันที่ ๗ บอกให้หากินเอง ก็ไปไม่เป็น ถ้าเป็นตัวกระผม/อาตมภาพเอง บอกแค่วันแรกก็จบไปแล้ว..!
แม้กระทั่งสมัยที่ยังอยู่วัดท่าซุง ไม่มีสักวันเดียวที่กระผม/อาตมภาพจะคิดว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านจะอยู่ได้ถึงวันรุ่งขึ้น พอดินฟ้าอากาศผิดปกติขึ้นมา กระผม/อาตมภาพจะรีบลุกขึ้นนั่งกรรมฐาน ดูว่าหลวงพ่อท่านไปแล้วหรือยัง..! ดังนั้น..ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านสอนก่อนที่ท่านจะจากไป กระผม/อาตมภาพต้องกอบโกยเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ติดขัดตรงไหน ท่านยังมีชีวิตอยู่จะได้สอบถามได้
แล้วดูตอนที่หลวงพ่อท่านมรณภาพไป แม้แต่พระเถระระดับ ๑๐ กว่า ๒๐ พรรษายังนั่งร้องไห้ ก็เพราะว่าไปไว้วางใจว่าหลวงพ่อท่านจะอยู่ถึง ๑๒๐ ปี คนที่ตั้งหน้าตั้งตากอบโกยอยู่ทุกวัน กับคนที่ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง อายุ ๑๒๐ ปีหลวงพ่อถึงจะมรณภาพ ใครที่ควรจะได้อะไรมากกว่ากัน ?
ทุกวันนี้หลายท่าน แม้อายุกาลพรรษามากมายขนาดนั้นแล้วก็ยัง "ไม่เป็นโล้เป็นพาย" อยู่เลย ขณะเดียวกันไอ้ที่บวชอยู่ท้าย ๆ เลยอย่างกระผม/อาตมภาพ ต้องมาเป็นหลักให้ชาวบ้านเขา ก็แค่ความสำนึกตัวโดยไม่ประมาท ว่าครูบาอาจารย์จะไม่อยู่กับเราตลอดไป สิ่งหนึ่งประการใดที่ท่านสอน ที่ท่านบอกกล่าว เราจะต้องรีบกอบโกยหรือว่ารีบทำเอาไว้ อย่างน้อยถ้าเวลานั้นมีอะไรติดขัด เราก็จะได้กราบเรียนสอบถามท่านได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-03-2023 เมื่อ 01:26
|