ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 17-02-2023, 23:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,955 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องพวกนี้พูดไป ท่านที่ไม่เคยเจอ ไม่เคยพบ ไม่เคยเห็น จินตนาการอย่างไรก็นึกไม่ถึงว่าอาการเจ็บป่วยจะทรมานได้ขนาดนั้น แล้วบุคคลหนึ่งก็ยังอุตส่าห์ดำรงขันธ์เอาไว้ เพื่อทำงานที่พระท่านสั่งให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นั้น ท่านทำกันได้อย่างไร ?

ถ้าเราไปนึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ประชวรปักขันธิกาพาธ ซึ่งแปลเป็นไทยว่า เป็นโรคถ่ายเป็นเลือด ถ้าเป็นสมัยนี้ หมอก็น่าจะวินิจฉัยว่าเป็นกระเพาะอาหารหรือว่าลำไส้ทะลุ ทำให้กำลังของพระองค์ท่านหมดไป

จากที่เคยเสด็จพระราชดำเนินได้วันละ ๑๒๐ โยชน์ ก็ต้องเดินไปพักไป กว่าจะถึงสาลวโนทยานนั้น ถ้าเป็นบุคคลทั่วไปก็อาจจะล้มลง สิ้นชีวิตไปนานแล้ว แต่ด้วยอธิวาสนขันติ ซึ่งท่านเองกำหนดอยู่เป็นกำลังส่วนองค์ แม้ว่ากำลังกายจะหมดแล้ว แต่กำลังใจที่เข้มแข็ง ก็ยังลากร่างกายนั้นไปจนกระทั่งถึงสาลวโนทยาน อันเป็นสถานที่ซึ่งพระองค์ท่านตั้งใจจะไปดับขันธ์พระปรินิพพานที่นั่น

หรือถ้าหากว่าไปนึกถึงพระเถระครูบาอาจารย์ในยุคที่พวกเราทั้งหลายยังสามารถทัน หรือว่าใกล้เคียง อย่างหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ซึ่งท่านเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่ในป่าในดง แต่ด้วยความที่เวทนาสงสารว่า สรรพชีวิตทั้งหลายอาจจะต้องมาดับสิ้นลงไป เพราะว่างานศพของท่านก็จะต้องมีการเลี้ยงกัน

ในเมื่อมีการจัดเลี้ยงก็ต้องมีการล้มวัว ล้มควาย ฆ่าหมู ฆ่าไก่ ท่านจึงยอมให้เขาเอาขึ้นเกวียนบ้าง แบกหามไปบ้าง จนกระทั่งไปถึงตัวเมืองสกลนคร ซึ่งการขึ้นลงนั้น กระผม/อาตมภาพเองมีประสบการณ์ว่า เวลาอาการเจ็บป่วยกำเริบหนัก ๆ นั้น แค่รถสะเทือนนิดหน่อยก็แทบจะขาดใจตายแล้ว แต่ว่าหลวงปู่มั่นก็ใช้อำนาจของขันติ อำนาจของกำลังใจ อดทนอดกลั้นจนกระทั่งไปถึงสถานที่ซึ่งท่านตั้งใจจะเข้านิพพาน

หรือว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง แม้กระทั่งวันสุดท้าย ท่านเองก็ยังให้พวกกระผม/อาตมภาพส่งท่านออกไปรับแขก ท่านบอกว่าคนอื่นเขาตั้งใจมาหา เขามาไกล มาแล้วไม่พบเขาจะเสียกำลังใจ แล้วก็เพียรพยายามที่จะไปเพื่อที่จะรับแขกให้ได้ ทั้ง ๆ ที่สายตาของท่านนั้นไม่สามารถที่จะแยกแยะผู้คนได้แล้ว เนื่องเพราะว่ากำลังกายหมดไป ทำให้สายตาพร่ามัว เห็นคนก็เป็นเพียงเงา ๆ เท่านั้น แยกแยะได้ว่าเป็นผู้หญิงผู้ชายหรือว่าเป็นพระเป็นโยม ก็นับว่าเก่งมากแล้ว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-02-2023 เมื่อ 00:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา