ในเรื่องของงานการต่าง ๆ ของกระผม/อาตมภาพนั้น ท่านทั้งหลายจะเห็นว่ามีแต่เพิ่มขึ้น ไม่ได้มีลดลง สำคัญตรงกำลังใจของเรา ใครที่มีงานน้อยจงดีใจเถอะว่า ท่านยังมีเวลาเคี่ยวกรำตนเองจนกำลังใจเข้มแข็งขึ้น เพื่อที่จะได้สู้งานไหวเมื่อถึงเวลาที่งานทับลงมา หลายคนมีการศึกษาสูง เคยทำหน้าที่การงานต่าง ๆ มามาก พอมานั่งภาวนาเฉย ๆ รู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า อยากจะให้หลวงพ่อเรียกใช้ ไอ้พวกนี้หาที่ตาย..!
เนื่องเพราะว่าถ้ากำลังใจของเรายังไม่ไหว แต่แส่ไปทำงานก็หาเรื่อง เพราะว่ามีแต่จะฟุ้งซ่านหนักขึ้น พอคุม รัก โลภ โกรธ หลง ไม่อยู่ ก็สึกหาลาเพศกันหมด ดังนั้น..ถ้าหากว่าใครคิดที่จะบวชอยู่ต่อไป กรุณาเร่งกำลังใจตนเองให้มากเข้าไว้ ก่อนที่งานจะไหลมาเทมา ไม่เช่นนั้นแล้วถึงเวลาเรารับไม่ไหว สึกหาลาเพศไป ก็ไปลำบากในชีวิตฆราวาสอีก
เรื่องของการทำงาน ถ้าหากว่าอย่างนิสัยของกระผม/อาตมภาพก็คือ ทำหน้าที่ตนเองให้ดีที่สุด แต่คราวนี้คำว่าดีที่สุดก็ลักษณะเดียวกับกำลังใจในมัชฌิมาปฏิปทา ก็คือไม่มีมาตรฐาน ๕๐ เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับกำลังกาย กำลังใจ และกำลังบุญที่สั่งสมมา ใครกำลังกาย กำลังใจ กำลังบุญมีมาก ก็ทำงานได้มากกว่าคนอื่นเขา กำลังน้อย ถึงเวลาก็ไปต่อไม่ไหว ถ้าหากว่าไม่เลิกทำ ก็อาจจะถึงขนาดสึกหาลาเพศไปเลย..!
อีกประการหนึ่งก็คือบางท่านที่ตั้งกำลังใจผิด ประเภทตั้งใจว่าจะบวชไม่สึก ไอ้นั่นก็หาที่ตาย..! คุณรู้ไหมว่ากิเลสชอบคนที่ตั้งใจแบบนี้มากเลย มักจะถูกรุมตีชนิดไม่เลี้ยง เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าใครโง่ไปปิดทางตัวเองแบบนั้น ก็ไม่มีที่ให้หนี ถ้าหากว่าเราตั้งใจแบบนั้นก็ต้องสู้กันตายไปข้างหนึ่ง โอกาสแก้ตัวไม่มี เพราะว่ากำลังของเรายังน้อย โอกาสที่จะชนะกิเลสแทบจะเป็นศูนย์..!
กระผม/อาตมภาพโชคดีที่ว่าปฏิบัติธรรมมาอย่างหนักตั้งแต่สมัยฆราวาส สิ่งที่จะต้องเจอในชีวิตของความเป็นพระก็ไปเจอตอนเป็นฆราวาสเสียมาก จึงทำให้ผ่านพ้นมาได้ เพราะว่ากฎเกณฑ์กติกาของฆราวาสมีน้อยกว่าพระหลายเท่า ดังนั้น..ตอนที่บวชเข้ามาจึงเปิดกำลังใจกว้าง ๓๖๐ องศา ประมาณว่า "ถ้าอยู่ไม่ได้กูพร้อมที่จะไปทันที" ถ้าลักษณะอย่างนี้กิเลสไม่เสียเวลามาตีหรอก เพราะว่าเราพร้อมที่จะไป เหมือนอย่างกับว่ามีคนมาท้าชกกันแล้วเราเอาแต่วิ่งหนี ใครจะไปอยากจะชกด้วย แต่กว่าที่จะรู้ว่านี่คือวิธีการหนึ่งที่เราใช้สู้กิเลสในช่วงที่กำลังยังน้อย กระผม/อาตมภาพก็โดนมาหนักแล้วไม่รู้ว่าเท่าไรต่อเท่าไร..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2023 เมื่อ 02:24
|