ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 11-02-2023, 00:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,727
ได้ให้อนุโมทนา: 152,085
ได้รับอนุโมทนา 4,419,196 ครั้ง ใน 34,317 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเรารู้ว่าเขาเป็นคนที่ไม่รู้จักยืนหยัดด้วยตนเอง ดีแต่ขอความช่วยเหลือจากคนอื่น บางคนเห็นว่าเป็นความสามารถของตนด้วยซ้ำไป ที่สามารถเบียดเบียนคนอื่นได้โดยที่ไม่ต้องมีการชดใช้ใด ๆ ทั้งสิ้น บุคคลประเภทนี้เราก็ควรที่จะเว้นความเมตตากรุณา แต่ไปใช้อุเบกขาแทน ก็คือต้องใช้ปัญญาตัดเขาออกจากวงจรชีวิตของเราไปเลย ไม่เช่นนั้นเราเองอาจจะกำลังใจตก แล้วกลายเป็นเสียผลของการปฏิบัติไปเองก็ได้

ตรงนี้ถ้าหากว่าบางท่านถามว่า "แล้วเราจะแยกแยะอย่างไรว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ความใจร้ายใจดำ ไม่ใช่ความตระหนี่ถี่เหนียว หากแต่ว่าเป็นฌานในการสละ คือจาคานุสติ ?" ก็ขอให้เราพินิจพิจารณาว่า เรายังเป็นผู้ที่ให้ทานได้ตามปกติ พร้อมที่จะให้อยู่เสมอ เพียงแต่ว่าให้แล้วเกิดความรู้สึกเฉย วางได้ ปล่อยได้ ไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งที่ทำอีก ถ้าลักษณะอย่างนี้ แปลว่าท่านทรงฌานในจาคานุสติกรรมฐาน แต่ถ้าหากว่าไม่ใช่ ก็ต้องพิจารณากันให้ดี ว่าเป็นความตระหนี่ถี่เหนียว ใจจืดใจดำ ขาดเมตตากรุณาหรือเปล่า ? เป็นสิ่งที่ท่านทั้งหลายต้องไปพิจารณากำลังใจของตนเอง

อีกคำถามหนึ่งก็คือว่าบุคคลผู้ถามนั้น "เบื่อการดำรงชีวิตอยู่เต็มทีแล้ว มีวิธีใดบ้างที่จะหลุดพ้นจากกองทุกข์ เข้าสู่พระนิพพานได้เร็ว ๆ ?" เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าไปถามบางคน บางสำนัก อาจจะโดนชักนำให้ผิดเพี้ยนหลงทางไปเลย อย่างที่บางสำนักถึงขนาดมีการฆ่าตัวตายเพื่อให้พ้นจากสภาพนี้..!

ท่านทั้งหลายต้องพินิจพิจารณาดูก่อนว่า การดำรงชีวิตอยู่ของเรานั้น ถึงแม้ว่าจะน่าเบื่อสุดทนขนาดไหนก็ตาม ชีวิตเราก็ไม่เกิน ๑๐๐ ปีอยู่แล้ว ถ้าหากว่าเราต้องทนทุกข์ยากลำบากไปจนถึงอายุ ๑๐๐ ปี แล้วสามารถหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้ เปรียบกับการเวียนว่ายตายเกิดที่ต้องทุกข์ทนไม่รู้จบเป็นกัปกัลป์อนันตชาติ อายุคนแค่ ๑๐๐ ปีก็เหมือนกับหลับตาลงแล้วลืมตาขึ้น แค่ชั่วแวบเดียวเท่านั้น ในเมื่อระยะเวลาสั้น ๆ แค่นี้ ทำไมเราจะอยู่ให้ดีไม่ได้ ?

อีกประการหนึ่ง ต้องใช้กำลังใจและกำลังปัญญาที่สูงขึ้นไปกว่านั้น ก็คือเราอยู่แค่วันนี้วันเดียว หรือว่าเราอยู่แค่ลมหายใจนี้ลมหายใจเดียว เมื่อหมดจากวันนี้ หรือหมดจากลมหายใจนี้ เราก็ไปพระนิพพานแล้ว ถ้าวางกำลังใจเช่นนี้ได้ ก็จะก้าวข้ามความเบื่อหน่ายทั้งหลายทั้งปวงไป เราเองก็จะก้าวข้ามจากนิพพิทาญาณไปเป็นสังขารุเปกขาญาณ กลายเป็นบุคคลที่ตั้งหน้าตั้งตาทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อที่ถึงเวลาจะได้จากไปอย่างสง่างามที่สุด เป็นบุคคลที่ไม่ได้ปรารถนาความตาย แต่เป็นบุคคลที่พร้อมจะตายอยู่ทุกเวลา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-02-2023 เมื่อ 00:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา