หลวงปู่โคธิกะเถระจึงมีกำลังใจที่ปลดวางจากความอาลัยในทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ วางรัก วางโลภ วางโกรธ วางหลง วางแม้กระทั่งอัตภาพร่างกายที่หาความดีไม่ได้ แล้วใช้มีดโกนเชือดคอมรณภาพไป กำลังใจของท่านแน่วแน่มั่นคงไม่แปรผัน อยู่กับการไม่ต้องการร่างกายนี้ ไม่ต้องการเกิดมาในโลกนี้ ท่านจึงสามารถพ้นจากกองทุกข์ไปสู่พระนิพพานได้
เรื่องนี้แม้แต่พญามารก็ไม่เชื่อ เมื่อมากราบเรียนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า "โคธิกะนั้นตกอยู่ในเงื้อมมือของเราแล้ว" องค์สมเด็จพระประทีปแก้วตรัสว่า "ปาปิมะ...ดูก่อนมารผู้มีบาป โคธิกะบุตรของเรานั้นพ้นจากเงื้อมมือของเธอแล้ว" พญามารไม่เชื่อ จึงตระเวนหาไปทั้ง ๔ ทิศ ไม่ว่าจะขึ้นบนลงล่างอย่างไร ก็ไม่สามารถที่จะหาดวงจิตของพระโคธิกะเถระได้พบ เพราะว่าพระโคธิกะเถระนั้น ท่านหลุดพ้นจากภพภูมิทั้งปวง ไปสู่พระนิพพานเสียแล้ว
ดังนั้น..ใครก็ตาม ถ้าคิดว่าสามารถวางกำลังใจได้แบบพระโคธิกะเถระ ก็ขอให้เข้าใจว่าท่านกำลังเป็นมิจฉาทิฏฐิแล้ว พระโคธิกะเถระนั้นตัดร่างกายอย่างแท้จริง ไม่ปรารถนาอีกแล้ว แต่ว่าท่านทั้งหลายนั้น ส่วนใหญ่แล้วกำลังใจประกอบไปด้วยความเศร้าหมอง อยากที่จะพ้นไปจากร่างกายนี้ พระโคธิกะเถระนั้นท่านไม่ได้มีความอยากใด ๆ ทั้งปวงหลงเหลืออยู่เลย..!
บุคคลที่อยากตาย กระผม/อาตมภาพขอยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องดี เนื่องเพราะว่าบุคคลที่ปฏิบัติถึงจริง ๆ นั้นไม่ใช่บุคคลที่อยากตาย แต่พร้อมที่จะตายอยู่เสมอ เป็นบุคคลผู้มีราตรีอันเจริญ ก็คือเป็นผู้ไม่ประมาทในการปฏิบัติธรรม พร้อมอยู่เสมอถ้าหากว่าความตายมาถึง ไม่ได้ดิ้นรนเสาะแสวงหาความตาย แต่ก็ไม่ได้หวั่นเกรงในความตาย
ดังนั้น..ท่านทั้งหลายที่ปฏิบัติธรรมไปถึงระดับที่อยากตาย อย่าคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี เป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพราะว่าสามารถหลงผิด เป็นมิจฉาทิฏฐิได้ง่ายที่สุด
การที่เราจะอยู่หรือว่าจะตายนั้นต้องขึ้นอยู่กับอายุขัย ขึ้นอยู่กับบุญ กับกรรมและอาหารต่าง ๆ หลายประการประกอบกัน ไม่ใช่เรื่องที่เราคิดอยากจะตายก็ตายได้ แล้วขณะเดียวกัน กำลังใจที่แสวงหาความตาย แล้วประกอบไปด้วยความเศร้าหมอง เพราะว่าทุกข์โทษทั้งหลายทั้งปวงที่เราเห็นอยู่นั้น เราไม่ได้สลัดตัดทิ้งไป หากแต่ว่าเราไปแบกทุกข์เอาไว้ แล้วอยากจะไปพ้นจากความทุกข์ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็แปลว่าเราวางกำลังใจผิด โอกาสที่จะลงสู่อบายภูมิจึงมีสูงมาก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2022 เมื่อ 02:32
|