ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 16-12-2022, 23:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,401 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แล้วใหม่ ๆ ก็ไม่รู้อะไร ไปซื้อปลาดุกมาเป็นปีบเลย ปรากฏว่าพอปล่อยลงตรงหน้าวัดท่าซุงบริเวณแพ พวกนี้ไปไหนไม่เป็น เพราะว่าเป็นปลาดุกเลี้ยง ได้แต่ม้วนกันอยู่เป็นก้อนนั่นแหละ หลายสิบตัว แล้วก็มีไอ้แสบก็คือปลากระแห ปลากระแหบางคนเรียกตะเพียนหางแดง ไอ้เจ้าพวกนี้ร้ายมาก เมียง ๆ เข้ามาดู พอได้จังหวะก็พุ่งเข้ากระชากหนวดปลาดุกไป ก็คือเอาไปกินนั่นแหละ..!

แต่ปลาดุกนี่ถ้าไม่มีหนวดก็หากินไม่ได้ เพราะว่าปลาดุกใช้หนวดคลำอาหาร ปรากฏว่าปลาที่กระผม/อาตมภาพปล่อยไปชุดแรก หนวดด้วนเกลี้ยงไม่เหลือสักตัว..!

หลังจากนั้น
กระผม/อาตมภาพก็เลยต้องมาพิจารณาว่า ปลาพื้นเมืองที่นี่คืออะไร ? ก็ปรากฏว่าส่วนใหญ่เป็นปลากระแห ซึ่งคนเก่าคนแก่เขาบอกว่า ไอ้พวกนี้แค่เห็นฟ้าก็ตกใจตายแล้ว จึงไม่สามารถที่จะหามาปล่อยได้ แล้วก็ศึกษาต่อไปว่ามีปลาอะไรบ้าง มีปลาเทโพ ปลาสวาย ก็เลยเปลี่ยนไปซื้อปลาเทโพ ปลาสวาย มาปล่อยแทน

สรุปว่าปล่อยอยู่ ๓ ปี กลายเป็นวังมัจฉาหน้าวัดท่าซุงอย่างที่พวกคุณเห็น เพราะฉะนั้น..ขอให้รู้ว่าไอ้วังมัจฉาหน้าวัดท่าซุงนั้น เป็นวีรกรรมของกระผม/อาตมภาพเอง..!

ภายหลังต้องไปยังตีกับชาวบ้านเขาอีกหลายยก ไอ้เรื่องที่ชาวบ้านเขามาจับปลาหน้าวัด คือปกติก็ไม่ได้หวงไม่ได้ห้ามอะไรหรอก แต่ตอนนั้นไปได้ยินเขาแล้วร้อนหู พวกนั้นเอาอวนมาตีปลาไปทีหนึ่งเป็นคันรถกระบะเลย แล้วมาพูดกันว่า "พระวัดนี้โง่..เลี้ยงปลาให้กูขาย..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-12-2022 เมื่อ 02:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา