ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 07-10-2022, 03:39
สุธรรม's Avatar
สุธรรม สุธรรม is offline
ผู้ตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 4,800
ได้ให้อนุโมทนา: 270,292
ได้รับอนุโมทนา 840,712 ครั้ง ใน 12,828 โพสต์
สุธรรม is on a distinguished road
Default

ถาม : ๑.หลวงพ่อเคยเทศน์ถึง บารมี, อุปบารมี และปรมัตถบารมี ที่แต่ละขั้นแบ่งเป็น หยาบ, กลาง, และละเอียด รวมเป็น ๙ ขั้น เริ่มตั้งแต่ ยังให้ทานไม่ได้ไปจนถึง ทำทาน, ศีล และภาวนาได้ ข้อนี้คือการบำเพ็ญบารมีแบบสาวกภูมิ ส่วนการบำเพ็ญบารมีแบบพุทธภูมิจะมีรายละเอียดลำดับทั้ง ๙ ขั้นอีกแบบ เช่น ในระดับขั้นบารมีพระโพธิสัตว์ก็สามารถบำเพ็ญภาวนาได้ ไม่ต้องรอไปถึงปรมัตถบารมี เป็นต้น ผมเข้าใจถูกหรือไม่ครับ

๒.บารมีทั้ง ๙ ขั้นของพุทธภูมิ ต้องบำเพ็ญตามระยะเวลาการบำเพ็ญบารมีด้วยหรือไม่ เช่น ประเภทวิริยาธิกะ ปรารถนาในใจ ๒๘ อสงไขยมหากัป ปรารถนาด้วยวาจา ๓๖ อสงไขยมหากัป ปรารถนาด้วยกายและวาจา (หลังได้รับพุทธพยากรณ์) ๑๖ อสงไขยมหากัป และเศษแสนมหากัป

ต้องบำเพ็ญบารมีขั้นหยาบ ๙ อสงไขยมหากัป , บารมีขั้นกลาง ๙ อสงไขยมหากัป และบารมีขั้นละเอียด ๙ อสงไขยมหากัป และเศษที่เหลือ จาก ๒๘ อสงไขยมหากัปของช่วงปรารถนาในใจ ขั้นอุปบารมี และปรมัตถบารมี ก็แบ่งช่วงคล้าย ๆ แบบนี้ เป็นต้นครับ

๓.การบำเพ็ญบารมีทั้ง ๙ ขั้นของปัจเจกภูมิ ต่างจากของพุทธภูมิและสาวกภูมิอย่างไรครับ

๔.การบำเพ็ญบารมีทั้ง ๙ ขั้นของ ผู้ที่บำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นพระอัครสาวก/พระอัครสาวิกา พระมหาสาวก หรือเอตตะทัคคะด้านต่าง ๆ แตกต่างจากผู้ที่บำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นสาวกปกติอย่างไรครับ ?
ตอบ : มึงอ่ะ..ฟุ้งซ่าน..!!!
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา