ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 18-09-2022, 22:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,981
ได้รับอนุโมทนา 4,416,066 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเริ่มพิธีในการปลุกเสก กระผม/อาตมภาพก็ส่งจิตขึ้นไปกราบขอบารมีพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันตเจ้า พรหม เทวดา พ่อแม่ครูบาอาจารย์ต่าง ๆ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านบอกว่า "ทิ้งไปได้เลย"

ด้วยความที่เคยชินคือ การใช้มโนมยิทธิตามสายของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงนั้น ท่านขอบารมีพระ ให้เหลือความรู้สึกส่วนหนึ่งไว้กับร่างกาย เพื่อที่ถึงเวลาใครสอบถามอะไรจะได้ตอบได้ ไม่เช่นนั้นถ้าทิ้งไปหมดเลย สภาพจิตกับกายแยกออกจากกันอย่างเด็ดขาด ร่างกายจะทำงานไม่ได้ เหมือนอย่างกับหุ่นที่โดนทิ้งเอาไว้เฉย ๆ จึงได้กราบเรียนถามหลวงพ่อท่านว่า "การที่เราปลุกเสกวัตถุมงคล ก็ไม่ได้ใช้กำลังของตนเองอยู่แล้ว ทำไมถึงต้องทำอย่างนั้น ถึงต้องทำอย่างนี้ด้วยครับ ?"

พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเมตตาอธิบายว่า "เพราะว่าแกเป็นสื่อกลาง สื่อกลางที่จะรับพลังงานจากที่อื่น เป็นต้นว่าจากพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันตเจ้า พรหม เทวดา หรือว่าครูบาอาจารย์ ตลอดจนกระทั่งพลังงานอื่น ๆ ที่มีอยู่ในจักรวาล เพื่อที่จะครอบคลุมลงไปยังวัตถุมงคล ดังนั้น..ถ้าหากว่าแกไม่สามารถที่จะทิ้งร่างกายไปได้เลยทีเดียว เพื่อให้ร่างกายเหมือนกับภาชนะเปล่า จะได้บรรจุพลังงานเอาไว้ให้มากที่สุด แล้วถ่ายทอดต่อลงไปยังวัตถุมงคล แกก็ต้องทำร่างกายให้ว่างเปล่าให้ได้ชั่วคราว"

เมื่อกราบเรียนถามว่า "คำว่า ว่างเปล่าชั่วคราว คืออะไรครับ ?" ท่านเมตตาตอบว่า "บุคคลที่เข้าไม่ถึงตรงจุดที่ทิ้งร่างกายได้ทั้งหมด อย่างน้อย ๆ ก็ต้องเข้าอัปปนาสมาธิระดับใดระดับหนึ่ง ที่กำลังใจจะว่างจากกิเลส รัก โลภ โกรธ หลง ได้ชั่วคราว ถึงจะสามารถรับพลังงาน หรือว่าดึงเอาพลังงานของครูบาอาจารย์ ตลอดจนกระทั่งพรหม เทวดา หรือว่าพระท่านที่สงเคราะห์ ลงมาสู่วัตถุมงคลได้มากเท่าที่ต้องการ ถ้าหากว่าสามารถวางกำลังใจได้สูง ก็สามารถเสกวัตถุมงคลได้มีอานุภาพสูง ถ้าวางกำลังใจได้ต่ำ ก็สามารถเสกวัตถุมงคลที่มีพลังงานต่ำ"

เมื่อกราบเรียนถามท่านว่า "คำว่า สูงต่ำ ในที่นี้เอาอะไรเป็นประมาณครับ ?" พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านบอกว่า "ต่ำสุดอย่างน้อยต้องเป็นปฐมฌานละเอียด สูงสุดก็คือการเข้าถึงสภาวะวิปัสสนาที่ปราศจากตัวตนอย่างแท้จริง หรือถ้าหากว่ากล่าวตามภาษาบาลีคือ "อนัตตา" พิจารณาเห็นอย่างชัดเจนว่า ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเรา เราสักแต่ว่ายึดถือ สักแต่ว่าอาศัยอยู่เท่านั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-09-2022 เมื่อ 02:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา