ดังนั้น..หลายท่านที่จะว่าไปแล้ว ควรที่จะอยู่ช่วยกันสร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่พระพุทธศาสนา แต่ด้วยความที่รู้ไม่จริง ทำให้ไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับสิ่งที่ตนเองรู้อย่างไร ความรู้นั้นจึงเป็นโทษแก่ตนเอง แล้วก็โดนหลอกได้ง่ายที่สุด
ยิ่งรู้เห็นชัดเจนเท่าไร ยิ่งโดนหลอกได้ง่ายเท่านั้น เพราะคนเรามักจะมีทิฏฐิ ยึดมั่นถือมั่นว่า "กูเห็น..กูจึงเชื่อ" แล้วถ้าหากว่าปัญญาไม่ถึง คนอื่นเตือนก็ไม่ฟังอีกด้วย..!
ที่กระผม/อาตมภาพยกตัวอย่างบ่อยที่สุดก็คือ เราเห็นเขาไล่ฆ่าไล่ฟันกันมา แล้วเราก็ลากมีดลากปืนไปช่วย จะโดนเขากระทืบตาย เพราะเขาถ่ายหนังกันอยู่..! เรื่องที่เราเห็น เราเห็นจริงไหม ? เห็นจริง ๆ แล้วเป็นเรื่องจริงตามที่เห็นไหม ? ไม่จริง เพราะว่าเขาถ่ายหนังกันอยู่ กระผม/อาตมภาพถึงได้สรุปว่า "ไม่รู้ไม่เห็น ปลอดภัยที่สุด"
การที่เราจะเป็นพระอริยเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป ก็คือ เราต้องมีความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์จริง ๆ ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจ แม้ต่อหน้าและลับหลัง ต้องทบทวนศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ล่วงศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นล่วงศีล และไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นล่วงละเมิดศีล ท้ายที่สุด มีปัญญา รู้ตัวอยู่เสมอว่าเราต้องตาย ถ้าตายเมื่อไร เราขอมีพระนิพพานมีที่ไปอย่างเดียว
ไม่ได้บอกว่าต้องรู้อดีต
ไม่ได้บอกว่าต้องรู้อนาคต
ไม่ได้บอกว่าต้องรู้ปัจจุบัน
ไม่ได้บอกว่าต้องระลึกชาติได้
ไม่ได้บอกว่าต้องรู้ว่าคนและสัตว์ ก่อนตายมาจากไหน ตายแล้วจะไปไหน
ไม่ต้องรู้ว่าคนและสัตว์ สร้างกรรมดีกรรมชั่วเอาไว้ แล้วจะไปเสวยบุญเสวยกรรมอย่างไร
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-09-2022 เมื่อ 02:23
|