เรื่องบางเรื่องพูดไม่ได้ เรื่องบางเรื่องรู้ร้อย พูดได้แค่หนึ่งแค่สอง เพราะฉะนั้น..นักปฏิบัติที่แท้จริง จำเป็นต้องรู้ด้วยว่าสิ่งที่เรารู้เห็น เราพูดได้เท่าไร ไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะเดือดร้อนมากกว่าที่คิด..!
อย่างที่มีอาจารย์ชื่อดังท่านหนึ่งทางเพชรบูรณ์ ปัจจุบันนี้ก็กลายเป็น "สมี" คือต้องอาบัติปาราชิกแล้ว ที่ท่านบอกว่าพระของเราไม่ควรที่จะทำน้ำมนต์พรมให้แก่ญาติโยม เพราะว่าน้ำมนต์ไปทำลายกายทิพย์ของบรรดาอีกโลกหนึ่ง ถึงขนาดขาดเป็นชิ้น ๆ ต้องเจ็บปวดทรมานมาก ไม่ควรที่จะให้มีวัตถุมงคลอยู่ในบ้าน เพราะจะทำให้สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เดือดร้อน เข้าออกบ้านนั้นไม่ได้..!
กระผม/อาตมภาพเคยบอกกล่าวตั้งแต่สมัยประมาณ ๓๐ ปีที่แล้วว่า ถ้าหากว่าท่านพูดอย่างนี้ แปลว่าท่านไม่รู้จริง ถ้าหากโจรมาบอกว่า เจ้าของร้านทองควรที่เอาตำรวจออกไปไว้ที่อื่น เพราะว่าตำรวจอยู่ ทำให้โจรเดือดร้อน เข้าปล้นร้านทองไม่ได้ ญาติโยมคิดว่าเราควรที่จะทำตามที่โจรบอกไหม ?
ดังนั้น..ที่สำคัญที่สุดก็คือ การรู้เห็นอย่าพึงเชื่อ เพราะว่าท่านพูดตามที่ท่านรู้เห็น แต่ไม่ได้หาเหตุผลมาประกอบว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นเกิดขึ้นเพราะอะไร ? หรือว่าควรที่จะประพฤติปฏิบัติกันแค่ไหน ถึงจะออกมาดีที่สุด ?
การที่เราคิด การที่เราพูด การที่เราทำ ทุกอย่างมีผลกระทบทั้งหมด อย่างที่ผู้รู้เขาบอกว่า ผีเสื้อกระพือปีกทางด้านนี้ อีกซีกโลกหนึ่งเกิดพายุทอร์นาโดได้ นี่เป็นเรื่องจริง..!
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งที่เราทำจึงควรที่จะก่อความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นน้อยที่สุด เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครเดือดร้อนเลย แต่ต้องก่อความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นน้อยที่สุด อย่างที่กระผม/อาตมภาพ กล่าวอยู่บ่อย ๆ ว่า ให้ระมัดระวัง อย่าให้ กาย วาจา ใจ ของเราเป็นทุกข์เป็นโทษกับคนอื่น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-09-2022 เมื่อ 02:20
|