[เถรี]

ศาสนวัตถุ วัดวาอาราม โบสถ์ วิหาร เจดีย์ ศาลา แม้กระทั่งเมรุ ท้ายที่สุดของเราที่พร่องอยู่ในปัจจุบัน คือศาสนบุคคล พระเณรของเราส่วนใหญ่เคยชินกับวิถีแบบโบราณ ๆ ก็คืออยู่แต่ในวัด รอคนมาหา การเผยแผ่ในเชิงรุกไม่มี เกิดจากขาดวิสัยทัศน์อย่างหนึ่ง เกิดจากความสามารถที่แท้จริงไม่มีอีกอย่างหนึ่ง

ท่านทั้งหลายจะเห็นว่าวัดท่าขนุนของเราเปิดเว็บไซต์มาเกือบ ๒๐ ปีแล้ว การทำบุญของวัดท่าขนุนในปัจจุบันนี้ ๘๐ เปอร์เซ็นต์ก็คือการทำบุญออนไลน์ แม้กระทั่งการที่จะส่งเรื่องราวต่าง ๆ ไปถึงญาติโยมทั่วโลก ก็ไปโดยการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนลงเผยแผ่ช่องยูทูบ นี่คือการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในเชิงรุก เข้าไปถึงบ้าน เข้าไปถึงในห้องนอนได้เลย

ถ้าหากว่าญาติโยมที่เป็นชาวต่างชาติเห็นประโยชน์ เราก็มีคนสอนให้ ธรรมะภาคภาษาอังกฤษ ถามท่านอาจารย์เตชะดู สอนมากี่ปีแล้ว ? หรือไม่ก็อย่างแม่ชีตุ๊ (ดร.แม่ชีกุลภรณ์ แก้ววิลัย) ของเรา ถ้าไม่มีใครกระผม/อาตมภาพเองก็ยังพอไหว สำคัญอยู่ที่ว่าเราต้องรู้จริง และสามารถแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติให้แก่ญาติโยมได้อย่างแท้จริง ไม่อย่างนั้นแล้วก็กลายเป็น "คนตาบอดขี่ม้าตาบอด" เข้าป่าเข้าดง หกล้มหกลุกไปเรื่อย ดีไม่ดีก็ตกเหวตาย..!

จึงเป็นเรื่องที่ท่านทั้งหลายจะต้องตระหนักว่า ในฐานะพุทธบริษัททั้ง ๔ เราต้องฝึกฝน กาย วาจา ใจ ของเราเอง จนกระทั่งเกิดประโยชน์ตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง แล้วสามารถนำไปบอกต่อได้ จึงจะเป็นการค้ำจุนพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองจนครบ ๕,๐๐๐ ปี

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๙ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)