วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพได้เดินทางไปยังวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์แต่เช้า เพื่อเข้าร่วมงานประชุมพระสังฆาธิการ ระดับเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล รองเจ้าคณะตำบล และเลขานุการทุกระดับ ในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งในงานนั้น นายชำนาญ ชื่นตา รองผู้ว่าการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มาบอกเล่าให้พระสังฆาธิการทั้งหลายได้ทราบ ถึงเรื่องของการขอสัญชาติไทยให้กับพระภิกษุสามเณรที่บวชและศึกษาธรรม ซึ่งมีเป็นจำนวนมากที่ไม่มีบัตรประจำตัว
ตรงส่วนนี้กระผม/อาตมภาพได้ขอความชัดเจนไปว่า ทางจังหวัดจะสามารถทำได้หรือไม่ ? ด้วยการที่ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีหนังสือคำสั่งสัก ๑ ฉบับ เพื่อให้ทุกอำเภอได้มีนโยบายในการทำเป็นไปแนวเดียวกัน ก็คือออกหนังสือรับรอง หรือว่าทำการขึ้นทะเบียนพระภิกษุสามเณรที่เกิดในเมืองไทย แม้ว่าจะเป็นลูกต่างด้าว แต่ก็ได้เรียนหนังสือไทย และบรรพชาอุปสมบทอยู่ในพระพุทธศาสนาแล้ว
อย่างน้อยให้มีบัตรผู้พลัดถิ่น หรือบุคคลไร้สัญชาติที่ขึ้นต้นด้วยเลข ๐ แต่เท่ากับว่ามีหมายเลขประจำตัว ๑๓ หลัก ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าเป็นบุคคลผู้มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งชัดเจน โดยสามารถที่จะใช้บัตรที่มีหมายเลข ๑๓ หลักนี้ เพื่อไปออกหนังสือสุทธิ ยืนยันการบรรพชาอุปสมบทของตน แล้วในขณะเดียวกันก็จะได้ศึกษาในระดับปริญญาต่อไปอีกด้วย
ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะทำให้พระภิกษุสามเณรเหล่านี้ ขาดโอกาสในการศึกษา แล้วทำให้ต้องสึกหาลาเพศไป เนื่องเพราะว่าหนังสือสุทธิก็ไม่มี จะศึกษาต่อก็ไม่ได้ เหตุเพราะว่าไม่มีหมายเลขประจำตัว ๑๓ หลัก จึงไม่สามารถที่จะมีหนังสือสุทธิยืนยันการบรรพชาอุปสมบทได้
ตรงนี้ทางด้านท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี บอกว่าจะนำเรียนผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้มารับตำแหน่งใหม่ แต่ว่ายังไม่ได้เดินทางมารับตำแหน่งของตน เพื่อที่จะให้ท่านได้รับทราบว่าทางคณะสงฆ์มีการร้องขอมาในลักษณะนี้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2022 เมื่อ 00:09
|