"โดยเฉพาะญาติโยมทั้งหลายจะได้กระทำในส่วนของวิหารทานและธรรมทาน ที่เป็นบุญใหญ่ยิ่งในพระพุทธศาสนา เมื่อตัวเราเป็นเนื้อนาบุญที่ญาติโยมให้ความเชื่อถือศรัทธา สามารถที่จะเป็นสะพานบุญส่งผ่านมายังวิทยาลัยสงฆ์สุพรรณบุรีศรีสุวรรรภูมิ ก็เป็นเรื่องที่เราควรที่จะกระทำอย่างเต็มที่"
เมื่อได้รับทราบเหตุผลทั้งหลายเหล่านี้ไป ก็คาดว่าญาติโยมทั้งหลาย ตลอดจนกระทั่งเพื่อนพระสังฆาธิการก็ดี พระภิกษุสามเณรทั้งหลายที่ฟังอยู่ก็ตาม คงจะได้เข้าใจว่าเหตุใดกระผม/อาตมภาพจึงไม่ค่อยจะได้ใช้เงินเพื่อบำรุงบำเรอความสุขของตนเอง หากแต่ใช้ไปในส่วนของกองบุญการกุศล
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าในวันที่บวชนั้น กระผม/อาตมภาพโดนพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง บังคับให้ปฏิญาณตนต่อหน้าพระว่า "ข้าพเจ้าจะรับเงินและทอง หรือสิ่งของใช้แทนเงินทองที่ผู้มีจิตศรัทธาถวาย แต่จะไม่เก็บเอาไว้ใช้เป็นการส่วนตัว หากแต่จะผลักเข้าร่วมในกองบุญการกุศล เพื่อเพิ่มอานิสงส์ให้แก่ผู้ถวาย"
ดังนั้น...ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องส่วนตัว ในเรื่องส่วนรวม หรือว่าในเรื่องของหน้าที่การงานตามที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา สิ่งที่ตนเองได้กระทำในครั้งนี้ ก็ถือว่าช่วยกันสร้างเนื้อนาบุญให้เกิดแก่ญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย เพื่อที่ท่านทั้งหลายจะได้นำเสบียงบุญในครั้งนี้ เดินทางข้ามวัฏสงสารโดยที่ไม่ยากลำบากนัก เพราะเท่ากับว่าเป็นบุคคลที่มีความพร้อมอยู่ทุกประการ เมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านทั้งหลายก็จะมีแต่ความสุขความเจริญ ตามบุญกุศลที่ท่านทั้งหลายได้ประกอบขึ้นมา
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๑๙ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-08-2022 เมื่อ 02:22
|