ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 08-08-2022, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,304 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น...ในเรื่องของการทำงาน ไหวพริบปฏิภาณเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยเฉพาะความละเอียดรอบคอบ แต่พวกเราพอละเอียดก็จะช้าทันที ถ้าหากว่าปล่อยให้เก็บกับข้าวกันเอง คัดแยกกันเอง รับประกันได้ว่ายันฉันเพลก็ยังบิณฑบาตไม่เสร็จ..!

แล้วพรุ่งนี้ถึงเวลาตามพระออกบิณฑบาต ก็ไม่ใช่ตะบี้ตะบันตามไปทั้งหมด ไปทำอะไรให้เกะกะเสียเปล่า ไปอย่างเต็มที่ก็ไม่เกิน ๓ คน ถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพเอง คนเดียวก็พอแล้ว คนแรกเก็บกับข้าวเสร็จ ก็ไปต่อท้ายแถวให้คนที่สองมาเก็บต่อ คนที่สองเก็บแล้วก็ไปต่อท้ายแถวให้คนที่สามขึ้นมาแทน หมุนเวียนกันไป..ง่าย ๆ แค่นี้เอง

ก่อนที่จะเก็บกับข้าวก็โปรดพิจารณาด้วยว่า ไอ้ตอนที่เราเอื้อมมือไปเก็บ จะไปขวางคนอื่นเขาหรือเปล่า ? เขาใส่บาตรได้ไหม ? ถ้าหากว่าใส่บาตรรูปแรกได้ แล้วถ้ามือเราเอื้อมไปขวางอยู่ เขาจะใส่รูปที่สองได้ไหม ?

เชื่อไหมว่าเรื่องทั้งหมดนี้ กระผม/อาตมภาพไม่เคยต้องรอให้ใครสอนเลย อยู่กับหลวงพ่อวัดท่าซุงก็ไม่เคยให้ใครสอนงาน เข้าไปถึงตรงไหนก็ทำหน้าที่ไปได้เลย คอยสังเกตเอา แล้วก็ปรับตัวตามหน้างาน แล้วก็เป็นเรื่องอัศจรรย์ว่า ลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงในยุคนั้นเป็นแบบนี้เกือบทุกคน ไปวัดก็มองหางานเอง ได้งานแล้วก็พิจารณาดูว่าต้องร่วมงานกับใคร ถ้าหากว่างานเกินกำลังตัวเอง ต้องอาศัยใครมาแก้ไข ทุกคนสามาถทำงานได้เองโดยไม่ต้องเสียเวลาไปให้ใครต้องมาปากเปียกปากแฉะ จ้ำจี้จ้ำไช

แล้วทำไมแค่ไม่กี่ปี พอมาถึงยุคพวกเรา บอกว่าอย่าบังกล้อง ๒ วินาทีต่อมาก็บังอีกแล้ว..!? บอกว่าให้ยืนเยื้องไปข้างหลังแล้วเก็บกับข้าว ๒ วินาทีต่อไปก็ยืนบังหน้าอีกแล้ว จะเป็นเรื่องที่น่าเหนื่อยใจเกินไปไหม ? ถ้าหากว่าครูบาอาจารย์จะต้องมาจ้ำจี้จ้ำไชอยู่ทุกวัน ต่อให้มึงฟังแล้วไม่เบื่อ กูก็เบื่อที่จะพูด..!

ดังนั้น...ลองดูว่าก่อนที่จะถึงวันที่ ๑๐ ช่วงบ่าย พวกเรายังมีเวลาแก้ตัว ดูว่าจะจัดสรรกำลังพลอย่างไร ใครจะตามพระ ใครจะอยู่ทำความสะอาดวัด ใครจะอยู่ช่วยเหลืองานในโรงครัว ถ้าคนแค่นี้แบ่งกันไม่ได้ ก็ไม่ต้องไปทำมาหากินอะไรแล้ว..!

ถ้าหากว่านับว่า ดี ๑ ประเภท ๑ ก็คือบรรดาท่านทั้งหลายที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโปรดในสมัยพุทธกาล หลังจากนั้นความสามารถก็ค่อย ๆ ลดน้อยถอยลงไปเรื่อย แต่เหลือเชื่อแค่ว่ายุคที่กระผม/อาตมภาพถวายการรับใช้หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงอยู่ มาจนถึงปัจจุบันนี้ แค่ไม่กี่ปี ความสามารถในการคิดงานทำงานของพวกเราจะย่ำแย่ลงไปได้ขนาดนี้..!

ถ้ารู้สึกว่าความสามารถยังไม่พอ ก็บวชอยู่ต่อไปให้นานหน่อย ดูว่าจะขัดเกลาตัวเองได้สักเท่าไร ถ้าแก้ไขได้ก็ถือว่าเป็นคุณแก่ตัว ถ้าแก้ไขไม่ได้ก็อย่าไปมีลูกมีเมียกับใครเลย สงสารเด็กที่จะเกิดมา..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2022 เมื่อ 02:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา