ถ้าทุกคนตั้งใจ ทุ่มเทให้กับการเรียน โดยการวางกำลังใจว่า เราเรียนเพื่อให้รู้ รู้แล้วเราต้องสามารถที่จะนำไปบอกต่อคนอื่นได้ด้วย นำไปสอนต่อคนอื่นได้ด้วย ไม่ใช่เรียนเพื่อให้จบเท่านั้น ถ้าท่านเรียนในลักษณะนี้ก็จะเป็นการเรียนแบบภัณฑาคาริกปริยัติ ก็คือเรียนแบบคลังเก็บความรู้
ต่อให้ไม่สามารถนำความรู้นั้นก่อให้เกิดประโยชน์ในทางธรรมแก่ตน คือปฏิบัติจนหลุดพ้นจากกองทุกข์ได้ อย่างน้อยเราก็เป็นผู้ที่รักษาหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อส่งต่อให้กับคนอื่นได้อย่างถูกต้อง ตรงตามคำสอนของพระองค์ท่าน
เมื่อให้โอวาทกับทุกท่านจบแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้มอบเงินสนับสนุนการศึกษา ให้กับนิสิตของอำเภอทองผาภูมิทุกรูป ซึ่งกระผม/อาตมภาพจะถวายให้รูปละ ๓,๐๐๐ บาทต่อเดือน แล้วก็มอบเงินพิเศษให้กับเจ้าหน้าที่ ในส่วนของฆราวาสทุกคน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ทางวิทยาลัยสงฆ์ เพื่อเป็นกำลังใจให้เขาทั้งหลายได้ทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่เต็มทาง หลังจากนั้นก็ลาทุกท่านทุกคนในสถานที่นั้น เพื่อเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ของตนต่อไป
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-08-2022 เมื่อ 01:37
|