เมื่อเป็นครอบครัวเดียวกัน ร่วมสุขร่วมทุกข์ ความทุกข์ก็เพิ่มขึ้นมา ๑ เท่าตัว
แล้วก็ยังอุตส่าห์มีลูกเล็ก ๆ ออกมา ดึกดื่นแค่ไหน ก็ต้องอดตาหลับขับตานอนมาดูแล
เหนื่อยจนแทบจะลงไปเลื้อยกับพื้น ก็ยังต้องดูแลลูกให้เรียบร้อยก่อน
ต้องแสวงหาสิ่งของปัจจัยต่าง ๆ มาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเอง มาเลี้ยงครอบครัว มาเลี้ยงลูก..
เหนื่อยแทบจะขาดใจลงไปในแต่ละวัน
ร่างกายก็ก้าวไปสู่ความเสื่อมตลอดเวลา เจ็บโน่น ปวดนี่ เมื่อยนั่น
สกปรกโสโครกต้องคอยดูแล ทำอะไรก็ยากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะร่างกายทรุดโทรมลง..
ความทุกข์ที่เหมือนเดิมก็มีมากขึ้น
ไหนจะลูก ไหนจะผัว ไหนจะเมีย..หาแต่ความทุกข์มาทับถมให้
ไหนจะอาการเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยโรคประจำตัว..ท้ายสุดท้ายเวทนากำเริบกล้า ร่างกายทรงอยู่ไม่ได้ก็แตก ก็ดับ ก็ตายลงไป
พระพุทธเจ้าตรัสว่า สรรพสังขารทั้งหลายเป็นทุกข์
เราเห็นชัดเจนแล้วว่า เป็นทุกข์จริง ๆ หนอ
|