บางทีไม่ไหวจริง ๆ พวกท่านเคยทำหรือเปล่า ? แต่กระผม/อาตมภาพทำมาแล้ว วิ่งในกุฏิครับ วิ่งตั้งแต่หัวค่ำยัน ๕ ทุ่มเที่ยงคืน หมดเรี่ยวหมดแรงนอนสลบไสลไปเลย "ก็กูไม่ไปกับมึงเสียอย่าง แน่จริงมึงก็อาละวาดไปสิ..!" ลองดูก็ได้นะครับ ของที่วัดท่าขนุนนี่ไม่ต้องวิ่งหรอก แค่ตะกายขึ้นไปไหว้รอยพระพุทธบาท ถ้าหัวค่ำขึ้นไปแล้วลงมายังคึกอยู่ ก็ตะกายกลับขึ้นไปใหม่ เจอไปสัก ๗ - ๘ รอบ เหนื่อยจะขาดใจตาย ดูสิคราวนี้ยังจะคิดถึงราคะ หรือจะคิดถึงตัวเอง ?
กิเลสมักกลัวตายครับ เพราะถ้าหากว่าร่างกายนี้ตาย กิเลสก็อยู่ไม่ได้ ถ้าเราเหนื่อยปางตายกิเลสจะสงบชั่วคราว เพราะฉะนั้น...พระสายวัดป่าถึงได้เดินจงกรมกันข้ามวันข้ามคืน อดอาหารกันที ๗ วัน ๑๐ วัน ๑๕ วัน ประมาณว่าเอาชีวิตเข้าแลก ดูสิว่าจะมีแรงไปคิดถึง รัก โลภ โกรธ หลงไหม ?
ดังนั้น..วันนี้ที่บอกเรื่องพวกนี้กับเราก็คือ อย่าเห็นว่าเป็นเรื่องผิดปกติ นี่เป็นเรื่องปกติของทุกคนจะที่ต้องเจอ หรือพูดกันแบบแรง ๆ ก็คือ ไม่ใช่มึงเจอคนเดียว คนอื่นก็เจอกันหมด เพียงแต่เขาไม่มาบอกให้มึงฟังเท่านั้นเอง..!
อย่าลืมที่พระพุทธเจ้าตรัสโอวาทปาฏิโมกข์ ประโยคแรกเลย ขันตี ปรมัง ตะโป ตีติกขา ขันติคือความอดทนอดกลั้น เป็นเครื่องเผากิเลสอย่างยิ่ง ทนครับ""ทนทุกเรื่อง แต่ทนเฉย ๆ ก็เหมือนกับควายละครับ เพราะฉะนั้น...เขาถึงได้บอกว่า "เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย..!!"
ในเมื่อเรารู้จักจำ รู้จักเข็ด ก็ระวังไว้อย่าให้กำลังใจหลุดจากการภาวนาอีก เมื่อภาวนาจนกำลังพอแล้วก็บี้กิเลสให้ตายไปเลย ไม่ใช่ไปปล่อยให้รอดไปอีก เอาแค่นี้ก็แล้วกันนะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวฝ่อตายเสียก่อน ถ้าอย่างไร เดี๋ยวกระผม/อาตมภาพจะไปเก็บศพแถว ๆ เชิงเขานั้นให้เอง..!
วันนี้จึงขอเรียนถวายพวกท่านทั้งหลาย และบอกกล่าวแก่ญาติโยมไว้แต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-07-2022 เมื่อ 02:22
|