ในเมื่อมีการบอกกล่าวกันเช่นนี้ ทุกคนเมื่อเวียนเทียนเสร็จตอนประมาณ ๒ ทุ่มครึ่ง ก็พากันถอนตัวจากวัดท่าขนุน ทั้งที่ผางประทีปยังคงงดงามสว่างไสวอยู่ ไม่มีทีท่าว่าจะฝนตก แต่พอ ๓ ทุ่มตรง ฝนก็เริ่มปรอยลงมาจาง ๆ แล้วก็ตกหนักขึ้นมาเรื่อยจนกระทั่งสว่าง..!
ในส่วนนี้ต้องบอกว่าเทวดา พรหม ตลอดจนกระทั่งเจ้าที่เจ้าทางทั้งหลาย ท่านก็ล้วนแล้วแต่ปรารถนาในส่วนกุศล เพื่อที่จะยังภพภูมิของตนให้เจริญรุ่งเรืองยิ่ง ๆ ขึ้นไป โดยเฉพาะการสั่งสมบุญกุศลนั้น มีแต่ความดีโดยส่วนเดียว เพราะว่าตราบใดที่กุศลยังส่งผลให้อยู่ ตราบนั้นเราก็จะได้รับแต่สิ่งดี ๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเกิดในชาติใดภพใดก็ตาม
ญาติโยมทั้งหลายจึงควรที่จักสั่งสมบุญกุศล ใน ทาน ศีล ภาวนา ให้ต่อเนื่องกัน อันดับแรก...ถ้าหากว่าล่วงลับดับขันธ์ไป บุญกุศลนั้นย่อมส่งผลให้ท่านไปสู่สุคติ
อันดับที่สอง...ถ้าท่านยังดำรงชีวิตอยู่ แล้วสร้างบุญกุศลได้นานพอ ผลบุญก็จะส่งผลให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตนี้ของท่านทั้งหลายด้วย
และอันดับต่อไป...ถ้าหากว่าสร้างสมจนเคยชิน ท่านจะมีคติที่แน่นอน ก็คือมีสุคติเป็นที่ไปโดยส่วนเดียว
ในช่วงบ่ายนั้น เมื่อเก็บผางประทีปและทำความสะอาดวัดกันแล้ว ก่อนที่จะทำวัตรเย็น ถือว่าเป็นเวลาพักผ่อน แต่ญาติโยมทั้งหลายที่เป็นนักท่องเที่ยว มีระยะเวลาในการหยุดวันพรุ่งนี้กับมะรืนนี้อีก ๒ วัน จึงยังคงปักหลักกันอยู่ที่อำเภอทองผาภูมิ
ประการแรก เพราะว่าทางหน้าวัดท่าขนุน ยังมีผลไม้เลื่องชื่อของทองผาภูมิที่ทยอยกันออกมา ไม่ว่าจะเป็นทุเรียนทองผาภูมิก็ดี เงาะทองผาภูมิ สะตอและพืชผักสดปลอดสารพิษอื่น ๆ ก็ตาม ตรงส่วนนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะหาได้ง่าย ยกเว้นปีที่พิเศษแบบนี้ เพราะว่าปีนี้นั้น การออกของผลไม้เป็นไปตามสภาพอากาศที่แปรปรวน ผลไม้จึงได้ออกไม่พร้อมกัน แต่แบ่งออกเป็นหลายรุ่น จึงยังคงพอมีที่จะแบ่งปันให้นักท่องเที่ยวทั้งหลายที่มาถึงได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-07-2022 เมื่อ 02:08
|