ประการที่สองคือ เป็นการผ่อนคลายให้กับทางพระภิกษุสามเณรวัดท่าขนุน ซึ่งมีการเคร่งครัดในวัตรปฏิบัติ คือทำวัตรเช้า ๑ รอบ ทำวัตรเย็น ๒ รอบมาตลอดทั้งปีในแต่ละเดือน ช่วงเย็นวันที่ ๑๓ ก็เปลี่ยนจากการทำวัตรเย็น ๒ รอบ เหลือแค่การสวดพระพุทธมนต์เย็นถวายหลวงปู่สายเท่านั้น
ส่วนในเช้าวันที่ ๑๔ ก็จะมีการแสดงพระธรรมเทศนา และให้ชาวบ้านทำบุญใส่บาตรอุทิศส่วนกุศลให้แก่หลวงปู่สาย ในเมื่อมีแต่ส่วนดีเช่นนี้ กระผม/อาตมภาพจึงได้คงแบบธรรมเนียมที่ดีนี้เอาไว้ ตั้งแต่มาเป็นรองเจ้าอาวาสจนกระทั่งมาเป็นเจ้าอาวาส ระยะเวลาก็ยาวนานถึง ๒๑ ปีแล้ว
ดังนั้น...ในส่วนนี้ท่านทั้งหลายที่อยู่ในอำเภอทองผาภูมิจะรู้ดี ในช่วงเช้าวันที่ ๑๓ ของทุกเดือน ถ้าหากว่าพระที่ออกบิณฑบาตบอกว่า "ขออนุญาตหยุดบิณฑบาตพรุ่งนี้ ๑ วัน" ส่วนใหญ่ก็จะถามว่า "ถึงวันทำบุญถวายหลวงปู่แล้วหรือ ?" ก็คือเป็นที่ทราบทั่วกันว่า ทุกวันที่ ๑๔ ของเดือน ทางวัดท่าขนุนจะทำบุญถวายหลวงปู่สาย
สำหรับในช่วงบ่ายวันนี้นั้น มีการเก็บผางประทีป ซึ่งได้แปรภาพแปรอักษรเป็นพุทธบูชาไปตั้งแต่เมื่อวาน ตรงส่วนนี้นั้น ผอ.โม้ย (นางสาวสุภาภรณ์ เจริญศิริโสภาคย์) ผู้อำนวยการกลุ่มกิจการพิเศษ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ได้พาคณะมาร่วมการวางผางประทีป จุดถวายเป็นพุทธบูชา และได้ถ่ายทำภาพเคลื่อนไหวเอาไว้ประกอบการประชาสัมพันธ์ของงานชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน
ผอ.โม้ย ท่านได้ปรารภว่า "เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มาก" เพราะว่าตั้งแต่ช่วงเช้ามานั้น ฝนตกกระหน่ำอย่างหนัก จนกระทั่ง ๕ โมงเย็นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ได้รับคำสั่งจากกระผม/อาตมภาพว่า ให้วางผางประทีปโดยการคว่ำเอาไว้ก่อน ถ้าหากว่าฝนไม่หยุดตกตามเวลา เราก็จะไม่จุดถวายเป็นพุทธบูชา
แต่ถ้าหากว่าเทวดา นางฟ้า พรหมทั้งหลาย ต้องการบุญต้องการกุศลตรงส่วนนี้ เดี๋ยวท่านก็จะจัดสรรให้เองว่าจะให้ฝนหยุดในช่วงไหน ปรากฏว่าประมาณ ๕ โมงครึ่ง ฝนก็เริ่มขาดเม็ด กระผม/อาตมภาพจึงได้นำพระภิกษุ สามเณร แม่ชี ฆราวาส นักท่องเที่ยวและผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลาย ทำการตามประทีป ๑๐,๐๐๐ ดวง ถวายเป็นพุทธบูชา
เรื่องพวกนี้ชาวบ้านท่าขนุนเจอมา ๒๑ ปี จนเขาไม่รู้สึกว่าแปลกกันแล้ว หากแต่บอกต่อ ๆ กันไปตามความเคยชินว่า "ถ้าหากว่าเป็นหน้าฝนแล้ววัดท่าขนุนจัดงาน เลิกงานเมื่อไรให้รีบกลับทันที ถ้าช้าแปลว่าเปียกแน่..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 17-07-2022 เมื่อ 00:23
|