มีเรื่องเล่ากันเป็นตำนาน ซึ่งชาวทองผาภูมิจดจำขึ้นใจโดยเฉพาะรุ่นเก่า ๆ ที่ผ่านมา เนื่องจากว่าหลวงพ่ออาบ ปคุโณ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อสาย วัดท่าขนุนนั้น ท่านได้สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ไว้หน้าวัดทองผาภูมิ ต้องขอกล่าวย้อนหลังไปว่าวัดทองผาภูมินั้น โยมแป้น (นางปรียา สิทธิสร) เป็นผู้ถวายพื้นที่ให้กับหลวงพ่อสาย วัดท่าขนุน เพื่อสร้างวัดใหม่ไว้ใจกลางชุมชน
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าวัดท่าขนุนนั้น แม้ว่าจะเป็นวัดสำคัญประจำอำเภอทองผาภูมิก็ตาม แต่ว่าชาวบ้านต้องลำบากในการข้ามน้ำ เพื่อที่จะมาทำบุญที่วัดท่าขนุน จึงมีผู้ที่เห็นว่าควรจะมีวัดประจำชุมชนเอาไว้ตรงกึ่งกลาง ไม่ต้องอ้อมโลกไปยังวัดท่าขนุน หรือไม่ต้องข้ามน้ำไปยังวัดท่าขนุน
ดังนั้น...โยมแป้น (นางปรียา สิทธิสร) ซึ่งเป็นคหปตานีสำคัญของอำเภอทองผาภูมิยุคนั้น จึงได้ถวายพื้นที่ให้หลวงพ่อสาย วัดท่าขนุน ซึ่งเป็นเจ้าคณะอำเภออยู่ในขณะนั้น ได้สร้างเป็นวัดทองผาภูมิขึ้นมา และได้มอบให้ลูกศิษย์องค์สำคัญคือหลวงพ่ออาบ ปคุโณ ที่ภายหลังได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นพระครูกาญจนประสิทธิ์ ได้มาครองวัดนี้
ดังนั้น..วัดท่าขนุนกับวัดทองผาภูมิจึงเป็นวัดพี่วัดน้อง หรือว่าเป็นวัดพ่อวัดลูกกันตั้งแต่ดั้งเดิมมา แล้วก็เป็นส่วนที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ง่ายที่สุด โดยเฉพาะในการตั้งศพเพื่อบำเพ็ญกุศล เพราะว่าอยู่เยื้องกับโรงพยาบาลทองผาภูมินิดเดียวเท่านั้น พูดง่าย ๆ ว่าถ้านำศพออกจากโรงพยาบาลข้ามถนนมาก็เข้าวัดได้พอดี จึงทำให้มีความนิยมในการตั้งศพ เพื่อที่จะบำเพ็ญกุศลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
แม้ว่าภายหลังพระเดชพระคุณหลวงพ่อสาย หรือว่าพระครูสุวรรณเสลาภรณ์ได้สร้างสะพานแขวนหลวงปู่สาย เพื่อให้ญาติโยมทั้งหลายได้เดินทางมาทำบุญที่วัดท่าขนุนได้สะดวกขึ้น แต่ว่าทุกคนก็ยังสะดวกใจที่จะบำเพ็ญกุศล โดยเฉพาะงานศพกันที่วัดทองผาภูมิมากกว่า ยกเว้นคนรุ่นเก่าจริง ๆ ที่ยึดมั่นถือมั่นกับคำว่า "วัดหลวงพ่อสายของเรา" ก็จะสั่งให้ลูกหลานนำศพมาตั้งเพื่อบำเพ็ญกุศลที่วัดท่าขนุน ดังนั้น..วัดท่าขนุนจึงนาน ๆ ครั้งที่จะมีงานศพ แต่ว่าวัดทองผาภูมินั้น แทบจะมีงานศพอยู่ทุกวัน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-07-2022 เมื่อ 01:53
|