ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 06-07-2022, 23:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,568 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีเรื่องเล่ากันเป็นตำนาน ซึ่งชาวทองผาภูมิจดจำขึ้นใจโดยเฉพาะรุ่นเก่า ๆ ที่ผ่านมา เนื่องจากว่าหลวงพ่ออาบ ปคุโณ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อสาย วัดท่าขนุนนั้น ท่านได้สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ไว้หน้าวัดทองผาภูมิ ต้องขอกล่าวย้อนหลังไปว่าวัดทองผาภูมินั้น โยมแป้น (นางปรียา สิทธิสร) เป็นผู้ถวายพื้นที่ให้กับหลวงพ่อสาย วัดท่าขนุน เพื่อสร้างวัดใหม่ไว้ใจกลางชุมชน

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าวัดท่าขนุนนั้น แม้ว่าจะเป็นวัดสำคัญประจำอำเภอทองผาภูมิก็ตาม แต่ว่าชาวบ้านต้องลำบากในการข้ามน้ำ เพื่อที่จะมาทำบุญที่วัดท่าขนุน จึงมีผู้ที่เห็นว่าควรจะมีวัดประจำชุมชนเอาไว้ตรงกึ่งกลาง ไม่ต้องอ้อมโลกไปยังวัดท่าขนุน หรือไม่ต้องข้ามน้ำไปยังวัดท่าขนุน

ดังนั้น...โยมแป้น
(นางปรียา สิทธิสร) ซึ่งเป็นคหปตานีสำคัญของอำเภอทองผาภูมิยุคนั้น จึงได้ถวายพื้นที่ให้หลวงพ่อสาย วัดท่าขนุน ซึ่งเป็นเจ้าคณะอำเภออยู่ในขณะนั้น ได้สร้างเป็นวัดทองผาภูมิขึ้นมา และได้มอบให้ลูกศิษย์องค์สำคัญคือหลวงพ่ออาบ ปคุโณ ที่ภายหลังได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นพระครูกาญจนประสิทธิ์ ได้มาครองวัดนี้

ดังนั้น..วัดท่าขนุนกับวัดทองผาภูมิจึงเป็นวัดพี่วัดน้อง หรือว่าเป็นวัดพ่อวัดลูกกันตั้งแต่ดั้งเดิมมา แล้วก็เป็นส่วนที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ง่ายที่สุด โดยเฉพาะในการตั้งศพเพื่อบำเพ็ญกุศล เพราะว่าอยู่เยื้องกับโรงพยาบาลทองผาภูมินิดเดียวเท่านั้น พูดง่าย ๆ ว่าถ้านำศพออกจากโรงพยาบาลข้ามถนนมาก็เข้าวัดได้พอดี จึงทำให้มีความนิยมในการตั้งศพ เพื่อที่จะบำเพ็ญกุศลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

แม้ว่าภายหลังพระเดชพระคุณหลวงพ่อสาย หรือว่าพระครูสุวรรณเสลาภรณ์ได้สร้างสะพานแขวนหลวงปู่สาย เพื่อให้ญาติโยมทั้งหลายได้เดินทางมาทำบุญที่วัดท่าขนุนได้สะดวกขึ้น แต่ว่าทุกคนก็ยังสะดวกใจที่จะบำเพ็ญกุศล โดยเฉพาะงานศพกันที่วัดทองผาภูมิมากกว่า ยกเว้นคนรุ่นเก่าจริง ๆ ที่ยึดมั่นถือมั่นกับคำว่า "วัดหลวงพ่อสายของเรา" ก็จะสั่งให้ลูกหลานนำศพมาตั้งเพื่อบำเพ็ญกุศลที่วัดท่าขนุน ดังนั้น..วัดท่าขนุนจึงนาน ๆ ครั้งที่จะมีงานศพ แต่ว่าวัดทองผาภูมินั้น แทบจะมีงานศพอยู่ทุกวัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-07-2022 เมื่อ 01:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา