ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 30-06-2022, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพก็ยุ่งวุ่นวายอยู่กับงานคณะสงฆ์ โดยเฉพาะการประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ซึ่งจะว่าไปแล้วพระเดชพระคุณพระเทพศาสนาภิบาล เจ้าคณะภาค ๑๔ นั้น ท่านอะลุ้มอล่วยมาก ก็คือบุคคลที่ไม่ทำตามสิ่งที่ท่านสั่ง ท่านก็ยังอุตส่าห์เปิดโอกาสให้เขาเปลี่ยนใจ ให้เขาได้ทำงานแก้ตัว

มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ท่านกล่าวเอาไว้ก็คือว่า ให้พระเราช่วยกันดูแลเวลาพระภิกษุสามเณรในวัดป่วย ซึ่งตรงจุดนี้วัดท่าขนุนของเรานับว่าได้เปรียบวัดอื่นเขามาก เพราะว่าเรามีกองทุนรักษาพยาบาลพระภิกษุสามเณร ซึ่งระยะเดือนสองเดือนนี้โดนเบิกมากเป็นพิเศษ ล่าสุดก็การผ่าตัดของหลวงตาอิ้ว (พระณัฐวัฒน์ จิรธมฺโม) ๓๗,๐๐๐ กว่าบาท แต่คาดว่าอาจจะขอลดหย่อนได้ เพราะว่าเป็นพระภิกษุ

ในเรื่องของการรักษาพยาบาลนั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้ เมื่อครั้งที่พระองค์ท่านไปดูแลพระปูติคัตตติสสะ ที่ท่านน่าจะเป็นมะเร็ง ถ้าหากว่าว่ากันในอรรถกถาก็คือ ในอดีตชาติท่านเป็นนายพรานล่านก เมื่อได้นกมาก็หักปีกหักขาเพื่อเก็บเอาไว้จำหน่าย ความเจ็บปวดของนกนั้น ไม่ต้องพูดถึงว่าต้องทุกข์ทรมานขนาดไหน..!

พอมาชาตินี้ แม้ว่าท่านจะบวชเข้ามาในพระพุทธศาสนาแล้ว ก็ยังไม่สามารถจะหนีกรรมเก่าตรงนี้ได้ ในธรรมบทท่านบอกเอาไว้ว่า เมื่อแรกก็บังเกิดเป็นตุ่มเล็ก ๆ เท่าเม็ดถั่วเขียวขึ้นบนผิวหนัง แล้วก็โตขึ้นเท่าเม็ดมะเค็ด โตขึ้นเท่าผลมะตูม แล้วก็แตก น้ำเลือดน้ำเหลืองไหลโทรมไปทั้งกาย
กระผม/อาตมภาพดูแล้วมีอย่างเดียวคือมะเร็ง มั่นใจว่าท่านคงเป็นมะเร็งที่ลามไปตามต่อมน้ำเหลือง เพราะว่าท่านเป็นทั้งองค์

ด้วยความที่เน่าไปทั้งตัวก็เลยได้ฉายาว่า ปูติคัตตติสสะ แปลว่า ติสสะผู้มีร่างกายอันเน่า ไม่มีใครช่วยดูแล จนกระทั่งพระพุทธเจ้าเสด็จผ่านไปเห็นเข้า จึงให้พระอานนท์ต้มน้ำร้อนมา แล้วพระองค์ท่านก็ผสมน้ำ ทำความสะอาดร่างกายให้ แล้วก็ซักผ้า ตากให้ โดยที่บอกกล่าวกับพระอานนท์และพระภิกษุทั้งหลายที่เห็นพระพุทธเจ้าเข้าไปช่วยเหลือ ก็แห่กันมา (ประมาณพวกคุณนั่นแหละ...ตอนที่
กระผม/อาตมภาพไม่ทำงานก็ไม่มีใครทำกัน พอจับงานอะไรขึ้นมาก็แย่งกันมาช่วย สมควรโดนเตะ..!)

พระพุทธเจ้าตรัสว่า ภิกขเว...ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอเป็นผู้ปราศจากเรือนแล้ว ทิ้งห่างจากญาติพี่น้องทั้งปวงแล้ว ถ้าพวกเธอไม่ดูแลกันเอง แล้วจะให้ใครมาช่วยดูแล ? พวกเธอที่หวังจักอุปัฏฐากตถาคต จงอุปัฏฐากภิกษุไข้เถิด เพราะการดูแลภิกษุไข้ มีอานิสงส์เหมือนกับการอุปัฏฐากตถาคต

พูดง่าย ๆ ก็คือใครอยากถวายการรับใช้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ไม่ต้องเสียเวลา เพราะว่าอย่างปัจจุบันนี้พระองค์ท่านก็ปรินิพพานไปนานแล้ว แต่ให้ช่วยกันดูแลภิกษุไข้ คือพระป่วย เณรป่วย ท่านบอกว่าการอุปัฏฐากภิกษุไข้ ก็เหมือนกับการอุปัฏฐากตถาคต
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-06-2022 เมื่อ 01:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา