ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 11-06-2022, 00:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,997
ได้รับอนุโมทนา 4,416,298 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๐ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ ต้องบอกว่าเป็นวันที่น่าเสียใจและน่าเสียดายอย่างยิ่งวันหนึ่ง เพราะว่าพรรคพวกเพื่อนฝูงท่านหนึ่ง ก็คือพระครูปฐมจินดากร (สายชล จิตฺตกโร) หรือที่พวกเราเรียกกันง่าย ๆ ว่า ท่านอาจารย์สายชล อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่แตงทอง อดีตเจ้าคณะตำบลทุ่งลูกนก ทายาทสืบสายวิชาพญาเต่าเรือนของหลวงปู่หลิว ปณฺณโก มรณภาพลงด้วยอายุ ๕๕ ปี ๓๓ พรรษา

ท่านอาจารย์สายชลเป็นเพื่อนร่วมรุ่น เรียนหนังสือมาด้วยกันตั้งแต่ระดับประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ ปริญญาตรีสาขาพระพุทธศาสนา ปริญญาโทสาขาการจัดการเชิงพุทธ แต่ท่านไม่ได้เรียนต่อปริญญาเอก เพราะว่าติดงานบริหารวัดไร่แตงทอง โดยเฉพาะในการซื้อที่ดินเพื่อถวายวัด ซึ่งบรรดาญาติโยมต่าง ๆ ก็ล้วนแล้วแต่เห็นพระเป็นบ่อทองให้ขุด..! ที่ดินรอบวัด ถ้าขายทั่วไปไม่เป็นไร แต่ถ้าขายให้วัดเมื่อไร ราคามักจะสูงกว่าปกติหลายเท่า

สมัยที่กระผม/อาตมภาพอยู่ที่วัดท่าซุง ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายสังเกต จะเห็นว่าช่วงระหว่างทางเข้าศาลา ๒ ไร่ (ซึ่งรวมศาลา ๔ ไร่กับศาลา ๑๒ ไร่ด้วย) กับทางด้านหลังศาลาพระนอนฝั่งจุฬามณี มีช่วงว่างอยู่ช่วงหนึ่ง ตรงพื้นที่นั้นพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงขอซื้อจากเจ้าของเขาแล้ว ไม่ใช่ว่าเขาไม่ขาย แต่เขาขายในราคาไร่ละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งราคาในตอนนั้น พื้นที่บริเวณนั้นไร่ละ ๓๐,๐๐๐ บาท..!

แม้กระทั่งกระผม/อาตมภาพเองซื้อที่ตรงเยื้องกับพระเจดีย์ ๘๔ พรรษา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พื้นที่ ๓๙๖ ตารางวา ไม่เต็มไร่ ซึ่งที่แถวนี้ก็คือราคาไร่ละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ทางเจ้าของขายที่ดินตรงนั้นให้กระผม/อาตมภาพ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท..!

ของท่านอาจารย์สายชลท่านโดนหนักกว่า ราคาประเมินที่ดินรอบวัดช่วงนั้น ราคาไร่ละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท เขาขายให้ท่านอาจารย์สายชลไร่ละ ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท..! ท่านจึงต้องออกไปสงเคราะห์ญาติโยม เพื่อรวบรวมปัจจัยซื้อที่ดินให้วัด ได้ถามท่านในฐานะคนคุ้นเคยกันว่า "ราคาแพงขนาดนี้แล้วยังจะซื้ออีกหรือ ?" ท่านบอกว่า "อย่างไรก็ต้องซื้อไว้ เพราะว่าถ้าเป็นคนอื่นมา กำลังไม่ถึง อาจจะซื้อไม่ไหว"

คราวนี้ด้วยความที่ท่านเครียดกับงาน ท้ายที่สุดก็เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่ได้ออกงานไปถึง ๒ ปีเต็ม หลังจากที่ฟื้นตัวขึ้นมาได้ไม่กี่ปีก็มรณภาพ เป็นเรื่องที่น่าเสียใจและน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าจากการที่สัมผัส การใกล้ชิด นอกจากในฐานะเพื่อนร่วมรุ่นที่เรียนหนังสือด้วยกันมาแล้ว ยังเป็นเพื่อนพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมงานพุทธาภิเษกต่าง ๆ และแลกเปลี่ยนวิชาความรู้กัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-06-2022 เมื่อ 02:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา