ตั้งกายขึ้นมา แล้วแยกชิ้นส่วนจนไม่เหลืออะไรเลย แล้วประกอบกลับเข้าไป จากนั้นจับแยกออกมาใหม่ เมื่อทำบ่อย ๆ จนเห็นความจริง ความยึดมั่นถือมั่นในร่างกายนี้ของท่านก็จะมีน้อยลง น้อยลง สภาพจิตของท่านก็จะได้รับการขัดเกลาที่ผ่องใสมากขึ้น มากขึ้น
เมื่อท่านไม่ยึดในร่างกายนี้ ก็ย่อมไม่ยึดในร่างกายคนอื่น ก็ย่อมไม่ยึดในร่างกายสัตว์อื่น ก็ย่อมไม่ยึดในวัตถุธาตุใด ๆ ในโลกนี้ ก็สักว่าเป็นแต่เพียงผู้อยู่ เป็นแต่ผู้อาศัย กระทำคุณงามความดี เพราะคนเขาว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นความดีเราก็ทำ ละเว้นจากการกระทำความชั่ว เพราะสาธุชนทั้งหลายเห็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นความชั่ว
เมื่อดีก็กระทำ ชั่วก็ละ แต่ไม่ติดทั้งดีทั้งชั่ว ท่านทั้งหลายก็สามารถที่จะหลุดพ้นจากร่างกายนี้ หลุดพ้นจากโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากเร่าร้อนนี้ ไม่เกิดในอบายภูมิทั้ง ๔ ไม่เกิดในกามาวจรภูมิ รูปาวจรภูมิ หรือ อรูปาวจรภูมิ หากแต่ว่าท่านทั้งหลายจะหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน
เพียงแต่ว่าท่านทั้งหลายต้องประกอบไปด้วยความพากเพียร คือวิริยบารมีอย่างสูง ประกอบไปด้วย ขันติ คือความอดทนอดกลั้นเป็นอย่างสูง และพยายามสร้างเสริมสมาธิให้มีกำลังมาก แล้วใช้ปัญญาพิจารณาตัดรอน ขัดเกลาสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ไปเรื่อย ๆ ท่านทั้งหลายก็จะสามารถเข้าถึงจุดหมายปลายทางได้ดังที่ตั้งความปรารถนาเอาไว้
วันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเราและบอกกล่าวแก่ญาติโยมทุกท่านแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-04-2022 เมื่อ 02:31
|